2 ข้อดีของการสร้างบล็อกหรือเว็บไซต์
ต้นทุนในการเริ่มต้นต่ำและสามารถสร้างกำไรในอนาคตได้
การจะเขียนเว็บไซต์หรือเว็บบล็อกเพื่อสร้างรายได้ นั้น ถือว่าใช้ต้นทุนในการเริ่มต้นน้อยมาก ตั้งแต่ฟรีทุกอย่าง จนถึงลงทุนบ้างแต่ก็ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ โดยในกรณีของการเริ่มต้นฟรีโดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน คือ การสร้างบล็อกฟรีกับ Blogger.com แล้วเขียนบทความเอง อัพลงไปเรื่อย ๆ พอเริ่มมีบทความเยอะจำนวนหนึ่งแล้ว ก็ส่งสมัคร Google Adsense
แต่การสร้างบล็อกฟรีก็มีบางอย่างที่มีช้อจำกัดหลายอย่าง เช่น การปรับแต่งหน้าตาเว็บไซต์หรือบล็อกได้น้อย แถมมีโอกาสโดนลบบล็อกด้วยหากเราเผลอไปทำผิดกฎอะไรบางอย่างเข้า คนที่ตั้งมั่นว่าจะทำรายได้จากเว็บไซต์จริง ๆ จึงนิยมไปเช่าโฮสและจดโดเมนเป็นของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังเกล่า จึงถือว่าการลงทุนทำเว็บไซต์ของเราเองนั้นมีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก ๆ ประมาณ พันกว่าบาท ต่อปีเท่านั้น ซึ่งถ้าหารค่าใช้จ่ายออกมาเป็นรายวันแล้ว ก็จะเสียแค่วันละ ไม่กี่สิบบาทเท่านั้นเองค่ะ
มียอดวิวน้อย ๆ ก็สามารถสร้างรายได้ได้
ถึงแม้ว่าเราทุกคนจะรู้ว่ายอดรายได้จะเยอะหรือน้อยขึ้นอยู่กับคนที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของเรา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนที่กำลังเริ่มต้นทำเว็บไซต์ใหม่ ๆ กังวลว่าเว็บของเขาจะมีคนเข้าชมน้อยและจะไม่มีรายได้ ซึ่งไม่จริงนะคะ หากคุณยื่นสมัคร Adsense ผ่านแล้ว ถึงจะมีคนเข้าดูเว็บไซต์น้อยก็ยังมีโอกาสสร้างรายได้ได้ค่ะ เพียงแต่ว่ามันน้อยเท่านั้นเอง และทางแก้ก็คือ เราก็ต้องหมั่นอัพบทความหรือเนื้อหาให้เยอะขึ้น จะได้เพิ่มจำนวนคนเข้าชมและเพิ่มรายได้ของเราให้เยอะขึ้นตามค่ะ
2 ข้อเสียของการเขียนบล็อกเพื่อให้มีรายได้ มือใหม่ต้องรู้
การอัพเดตบทความต้องใช้เวลาและความพยายาม
การเขียนเว็บไซต์หรือบล็อกไม่ใช่งานขายฝันที่ทำแล้วจะรวยข้ามคืน แต่ต้องอาศัยความอดทนพยายามและความสม่ำเสมอ ยิ่งในช่วงแรก ๆ ของการเขียนบล็อกหรือเว็บไซต์นั้น ก่อนที่เราจะยื่นสมัคร Google adsense เราก็ต้องมีบทความที่เขียนขึ้นใหม่อย่างน้อย 15-20 บท จึงจะผ่านการอนุมัติ
และเมื่อผ่านการอนุมัติไปแล้วก็ใช่ว่าเราจะสามารถหยุดทำได้ เราก็ต้องหมั่นอัพเดตข้อมูลและเขียนบทความใหม่เพิ่มเข้าไปเรื่อย ๆ จนกว่าเว็บไซต์ของเราจะเติบโต เพราะการเขียนเนื้อหาหรือบทความ และอัพเดตบ่อย ๆ จะช่วยให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์หรือบล็อกของเรามีคุณภาพและส่งผลดีต่อ SEO ซึ่งจะช่วยทำให้เว็บไซต์ของเรามีคนเข้าดูเยอะและมีโอกาสในการรับรายได้ที่เยอะขึ้นตามไปด้วย
ตรงจุดนี้ถือว่าสำคัญมากเลยนะคะ เพราะเมื่อก่อนที่จะมาทำ investwallet ตัวดิฉันเองก็มีเว็บไซต์ที่เขียนเนื้อหาลงไปเยอะประมาณหนึ่ง(300 กว่าบทความ)หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้อัพเดตเลย ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 เดือนไม่ได้อัพเดตอะไรเลยนะคะ ผลปรากกว่ารายได้ลดลงไปเยอะมาก ซึ่งกว่าจะกลับไปกอบกู้กลับมาให้เป็นเหมือนเดิมได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกันค่ะ ดังนั้นจึงอยากเตือนเพื่อน ๆ ด้วยความหวังดีด้วยว่า หากไม่อยากเหนื่อยเพิ่มเติมเหมือน investwallet เมื่อก่อน อย่าทิ้งการอัพเดตเว็บไซต์นะคะ
เป็นเรื่องยากที่จะได้รับเงินทันทีจากบทความที่เขียน
อย่างที่เราบอกไปแล้วนะคะ ว่าการเขียนบทความลงเว็บไซต์หรือบล็อกนั้นไม่ใช่งานที่ทำแล้วรวยในช่วงข้ามคืน มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้รับเงินทันทีจากเว็บของเรา ซึ่งจุดนี้คนเกินครึ่งที่วางแผนจะสร้างรายได้แบบเสือนอนกินกับการทำเว็บไซต์หรือบล็อกท้อแท้และถอดใจไปกลางคัน
เนื่องจากพวกเขาเหล่านั้นคิดว่า แค่เขียนบทความหรือเนื้อหาอัพจนผ่านการอนุมติและติดโฆษณาจาก Google ได้แล้ว ก็ถือว่าพอแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันห่างกันมาก การที่เรามีบทความในเว็บไซต์หรือบล็อกแค่20-30 บทความนั้นยังไม่พอที่เราจะนั่งรอรับเงินอย่างเดียวได้
โดยถ้าหากให้เปรียบเทียบก็คงจะเหมือนกับเราปลูกต้นไม่ค่ะ กว่าที่เราจะได้เก็บผลไม้กินได้ ต้นไม้บางชนิดก็อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ การทำเว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน กว่าที่เราจะนั่งเก็บผลรายได้ในแต่ละเดือนได้ เราก็ต้องหมั่นเพิ่มบทความหรือเนื้อหาไปเรื่อย ๆ ค่ะ
ซึ่งหากเพื่อน ๆ คิดเองไม่ออกไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรแล้ว การจ้างคนเขียนบทความก็ถือว่ายังทางออกที่ดีเช่นกันค่ะ แต่การจ้างเขียนบทความนั้นเราก็ต้องเลือกให้ดี เพราะว่าคนที่รับจ้างเขียนบทความบางคนอยากได้เงินเยอะ ๆ เขาก็อาจจะไปก็อปบทความคนอื่นมาขายเราได้ ดังนั้นเมื่อตัดสินใจจะจ้างเขียนบทความ เราจำเป็นต้องเช็คให้ละเอียดนะคะ