Site icon Investwallet

6 เทคนิคหารายได้เสริมจากการเขียนบล็อก พร้อมวิธีทำง่าย ๆ

6 เทคนิคหารายได้เสริมจากการเขียนบล็อก พร้อมวิธีทำง่าย ๆ

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการหารายได้เสริมจากการเขียนบล็อก แต่ยังติดปัญหาหลาย ๆ ด้าน เช่น ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี , วิธีการสร้างบล็อกสร้างยังไง และเมื่อสร้างบล็อกแล้ว เราจะสามารถทำเงินได้จากช่องทางไหนบ้าง วันนี้ Investwallet จะมาไขคำตอบเกี่ยวกับการสร้างบล็อกทุกข้อ ให้เพื่อน ๆ ได้รู้แบบละเอียดยิบเลยค่ะ

รายได้จากเว็บไซต์หรือบล็อก มาจากช่องทางไหนได้บ้าง ?

เพื่อน ๆ หลายท่านอาจจะเคยได้ยินมาว่า สามารถเขียนบล็อกแล้วรับเงินจากการติดโฆษณาของ Google adsense เป็นหลัก แต่จริง ๆ แล้วการเขียนบล็อกหรือเว็บไซต์สามารถสร้างรายได้ให้เราหลายช่องทางมาก ๆ ซึ่งทาง Investwallet ได้รวบรวมช่องทางการหารายได้เหล่านั้นมาบอกกัน ได้แก่

รับส่วนแบ่งโฆษณาจาก Google Adsense

Google Adsense คือบริการหนึ่งของ Google ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีเว็บไซต์ หรือช่อง Youtube สามารถเพิ่มรายได้เข้ากระเป๋า โดยทำการติดโฆษณาของ Google Adsense ลงในเว็บไซต์แล้วรอรับเงิน

วิธีการจะรับส่วนแบ่งโฆษณากับ google adsense ได้คือเราต้องเขียนบทความหรือเรื่องราวที่น่าสนใจ ลงในเว็บไซต์หรือบล็อกของเรา โดยในขั้นตอนแรกเราแค่เขียนบทความหรือเรื่องราวดี ๆ ประมาณ 15-20 บทความ เราก็สามารถยื่นสมัคร Google Adsense ได้เลย ยิ่งบทความที่เราลงไปนั้นเป็นบทความที่เขียนขึ้นเองทั้งหมด ไม่มีรีไรท์หรือไปก็อปคนอื่นมา โอกาสที่จะผ่านการอนุมัติก็ง่ายยิ่งขึ้น

และพอผ่านการอนุมัติ เป็นผู้เผยแพร่โฆษณากับ Google Adsense แล้ว ก็จะมีโฆษณาขึ้นในเว็บไซต์ของเราและเราก็รอรับส่วนแบ่งจากการติดโฆษณานั่นเองค่ะ ยิ่งเราหมั่นลงบทความบ่อย ๆ และลงเป็นประจำ ก็จะเห็นรายได้หลั่งไหลเข้ามาอย่างแน่นอนค่ะ

รับส่วนแบ่งจากการตลาดแบบพันธมิตร (Affiliate marketing)

Affiliate marketing เป็นการสร้างรายได้ที่แทบจะไม่ต้องลงทุนในเรื่องของตัวเงินเลย เพียงแต่ต้องลงทุนในด้านของแรงและเวลาเท่านั้น ซึ่งหน้าที่ของเราก็คือการโปรโมทให้คนสนใจและคลิกสั่งซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิ้งก์ของเรา

โดยถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การที่เราไปสมัครเป็นพันธมิตรกับเว็บไซต์เจ้าของสินค้าหรือบริการ จากนั้นเราก็เอาลิ้งก์สินค้าหรือบริการที่เราอยากทำการตลาดนั้นมาใส่ลงในเว็บไซต์หรือบล็อกของเราเอง

แต่หากเราไม่อยากให้ผู้ชมเว็บไซต์ของเราเห็นว่า เราทำการขายสินค้าแบบโต้ง ๆ จนเกินไป เราก็อาจจะเอาสินค้านั้นมาเขียนเป็นบทความหรือเขียนเป็นรีวิวเพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพและได้รับข้อมูลดี ๆ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้ากับลิ้งก์ของเราได้ไม่ยาก และพอลูกค้าสั่งซื้อสินค้ากับลิ้งก์ ของเรา เราก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นค่ะ

รับจ้างรีวิวสินค้า

งานรับจ้างรีวิว เป็นงานที่รายได้ดีมากแถมยังทำได้ไม่ยากอีกด้วย ยิ่งหากคุณทำเว็บไซต์ที่เฉพาะเจาะจงและตรงกับความต้องการของเจ้าของสินค้าอยู่แล้ว จะทำให้เจ้าของสินค้าเลือกจ้างคุณรีวิวสินค้าของเขาได้ไม่ยาก หรือหากเว็บไซต์ของคุณโด่งดัง ก็จะมีคนมาจ้างรีวิวเยอะขึ้นเช่นกันค่ะ

และพอมีคนมาจ้างรีวิวสินค้า คุณก็จะได้ทั้งค่าจ้างและได้รับสินค้านั้นมาใช้แบบฟรี ๆ อีกด้วย ซึ่งนอกจากนี้คุณยังสามารถสมัคร Affiliate สินค้าตัวนั้นแล้วเอาลิ้งก์สินค้ามาใส่ในบทความรีวิวของคุณ พอมีคนคลิกลิ้งก์ซื้อสินค้า คุณก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นเพิ่มมาอีกทางหนึ่งด้วยค่ะ

ซึ่งเทคนิคการเขียนบล็อกหรือเว็บไซต์รีวิวให้มีคนมาจ้าง คือ แรก ๆ คุณต้องหยิบจับของใกล้ ๆ ตัวมารีวิวก่อน พยายามรีวิวในทางที่ดีและนำเสนอแบบที่น่าสนใจและมีสไตล์เป็นของตัวเอง เน้นความจริงใจ และไม่โอเวอร์เกินไป พอคนเข้ามาอ่านเขาสัมผัสได้ถึงตัวตนและความจริงใจของคุณ คราวต่อไปเขาก็จะติดตามและเป็นลูกค้าของคุณในวันข้างหน้าได้อย่างง่าย ๆ ค่ะ และเมื่อเว็บไซต์ของคุณมีคนชอบเยอะ คนตามคุณเยอะ อัตราค่าจ้างในการรีวิวก็เยอะขึ้นตามไปด้วยค่ะ เจ๋งใช่ไหมล่ะ

รับเงินจากการติดป้ายโฆษณา

การติดป้ายโฆษณานอกจาก Google adsense แล้ว เว็บไซต์ของเรายังสามารถติดป้ายโฆษณาจาก แพรตฟอร์มอื่น ๆ ได้อีกด้วย ทั้ง Yengo,BumpQ หรือแม้แต่การให้พื้นที่ในการเช่าโฆษณาก็จะช่วยเพิ่มรายได้ให้เว็บเราได้ค่ะ

แต่มีข้อควรระวังนิดหน่อย คือ หากเพื่อน ๆ ติดโฆษณาของ Google อยู่แล้ว ควรศึกษาให้ดีนะคะว่าสามารถติดโฆษณาตัวไหนด้วยได้บ้าง ตัวไหนติดด้วยกันไม่ได้ อย่างน้อยก็จะได้ไม่ถูก Google แบนค่ะ

ทำคอร์สออนไลน์ขายเองหรือขายของออนไลน์ของตัวเอง

การที่เราเป็นเจ้าของบล็อกหรือเจ้าของเว็บไซต์ หนทางสร้างรายได้จะมีหลายหนทางมาก ๆ ค่ะ แถมหนทางเหล่านั้นเราไม่จำเป็นต้องเลือกแค่ทางใดทางหนึ่งนะคะ เพราะเราสามารถทำพร้อมกันทั้งหมดในเว็บเดียวได้เลย รวมไปถึงการที่เราจะขายสินค้าของเราเองหรือทำคอร์สออนไลน์แล้วขายเอง ก็ช่วยเพิ่มรายได้เข้ากระเป๋าได้ไม่น้อยเลยเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น หาก คุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ คุณอาจจะทำคอร์สสอนเทคนิคการถ่ายภาพ หรือหากคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับการทำอาหาร คุณก็ทำคอร์สสอนการทำอาหารแล้วโปรโมทขายในเว็บ ของคุณได้เลยค่ะ ยิ่งถ้าคนที่ตามอ่านเว็บเราเขาชื่นชอบหรือต้องการข้อมูลนั้นอยู่แล้ว เขาก็จะตัดสินใจซื้อคอร์สหรือสินค้าของเราง่ายขึ้นค่ะ

ทำเว็บไซต์ให้ดังแล้วขายมันซะ

มีหลายคนที่มีเงินและอยากมีเว็บไซต์ แต่ทำเว็บไม่เป็นหรือไม่อยากเสียเวลาทำเว็บเอง คนเหล่านั้นก็จะมาทำการซื้อเว็บที่เราทำขายค่ะ ซึ่งหากเพื่อนๆอยากปั้นเว็บขายหนทางก็คือ เราก็ไปเช่าโฮสต์และจดโดเมนมาให้พร้อม จากนั้นก็เขียนเนื้อหา บทความหรือเรื่องราวที่น่าสนใจลงไปทำเว็บให้สวย ๆ และพอเว็บมีรายได้ หรือเริ่มโด่งดัง เราก็ขายเว็บนั้นไปพร้อมกับรับกำไรส่วนต่าง

โดยวิธีปั้นเว็บไซต์ให้ดังแล้วขายออกไปจะให้อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คงคล้าย ๆ กับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั่นแหละค่ะ เปรียบได้กับว่า เราซื้อที่ดินมา(เช่าโฮสต์จดโดเมน) แล้วทำการสร้างบ้าน (เขียนเนื้อหาหรือบทความ) จากนั้นเราก็ขายทำกำไรค่ะ ยิ่งเราสร้างไว้มากเท่าไร ก็ขายทำกำไรได้มากเท่านั้นค่ะ

มาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ หลายคนคงจะพอนึกไอเดียออกนะคะ ว่าการทำเว็บไซต์หรือเขียนบล็อกนั้นสามารถทำเงินได้จากหลายช่องทาง แถมยังไม่ต้องเลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เพราะเราสามารถเลือกทำทุกวิธีพร้อม ๆ กันได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งจากที่เราได้เล่ามาเพื่อน ๆ อาจจะอยากมีเว็บไซต์หรือเว็บบล็อกของตัวเองแล้ว แต่ว่าของทุกอย่าง มีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสีย ซึ่ง investwallet ของเราจะมาบอกถึงข้อดีและข้อเสียบางอย่างเกี่ยวกับการเขียบบล็อกหรือเว็บไซต์เพื่อหารายได้ เผื่อว่าจะช่วยในการตัดสินใจของเพื่อน ๆ ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

2 ข้อดีของการสร้างบล็อกหรือเว็บไซต์

ต้นทุนในการเริ่มต้นต่ำและสามารถสร้างกำไรในอนาคตได้

การจะเขียนเว็บไซต์หรือเว็บบล็อกเพื่อสร้างรายได้ นั้น ถือว่าใช้ต้นทุนในการเริ่มต้นน้อยมาก ตั้งแต่ฟรีทุกอย่าง จนถึงลงทุนบ้างแต่ก็ถือว่าเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ โดยในกรณีของการเริ่มต้นฟรีโดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน คือ การสร้างบล็อกฟรีกับ Blogger.com แล้วเขียนบทความเอง อัพลงไปเรื่อย ๆ พอเริ่มมีบทความเยอะจำนวนหนึ่งแล้ว ก็ส่งสมัคร Google Adsense

แต่การสร้างบล็อกฟรีก็มีบางอย่างที่มีช้อจำกัดหลายอย่าง เช่น การปรับแต่งหน้าตาเว็บไซต์หรือบล็อกได้น้อย แถมมีโอกาสโดนลบบล็อกด้วยหากเราเผลอไปทำผิดกฎอะไรบางอย่างเข้า คนที่ตั้งมั่นว่าจะทำรายได้จากเว็บไซต์จริง ๆ จึงนิยมไปเช่าโฮสและจดโดเมนเป็นของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังเกล่า จึงถือว่าการลงทุนทำเว็บไซต์ของเราเองนั้นมีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก ๆ ประมาณ พันกว่าบาท ต่อปีเท่านั้น ซึ่งถ้าหารค่าใช้จ่ายออกมาเป็นรายวันแล้ว ก็จะเสียแค่วันละ ไม่กี่สิบบาทเท่านั้นเองค่ะ

มียอดวิวน้อย ๆ ก็สามารถสร้างรายได้ได้

ถึงแม้ว่าเราทุกคนจะรู้ว่ายอดรายได้จะเยอะหรือน้อยขึ้นอยู่กับคนที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของเรา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนที่กำลังเริ่มต้นทำเว็บไซต์ใหม่ ๆ กังวลว่าเว็บของเขาจะมีคนเข้าชมน้อยและจะไม่มีรายได้ ซึ่งไม่จริงนะคะ หากคุณยื่นสมัคร Adsense ผ่านแล้ว ถึงจะมีคนเข้าดูเว็บไซต์น้อยก็ยังมีโอกาสสร้างรายได้ได้ค่ะ เพียงแต่ว่ามันน้อยเท่านั้นเอง และทางแก้ก็คือ เราก็ต้องหมั่นอัพบทความหรือเนื้อหาให้เยอะขึ้น จะได้เพิ่มจำนวนคนเข้าชมและเพิ่มรายได้ของเราให้เยอะขึ้นตามค่ะ

2 ข้อเสียของการเขียนบล็อกเพื่อให้มีรายได้ มือใหม่ต้องรู้

การอัพเดตบทความต้องใช้เวลาและความพยายาม

การเขียนเว็บไซต์หรือบล็อกไม่ใช่งานขายฝันที่ทำแล้วจะรวยข้ามคืน แต่ต้องอาศัยความอดทนพยายามและความสม่ำเสมอ ยิ่งในช่วงแรก ๆ ของการเขียนบล็อกหรือเว็บไซต์นั้น ก่อนที่เราจะยื่นสมัคร Google adsense เราก็ต้องมีบทความที่เขียนขึ้นใหม่อย่างน้อย 15-20 บท จึงจะผ่านการอนุมัติ

และเมื่อผ่านการอนุมัติไปแล้วก็ใช่ว่าเราจะสามารถหยุดทำได้ เราก็ต้องหมั่นอัพเดตข้อมูลและเขียนบทความใหม่เพิ่มเข้าไปเรื่อย ๆ จนกว่าเว็บไซต์ของเราจะเติบโต เพราะการเขียนเนื้อหาหรือบทความ และอัพเดตบ่อย ๆ จะช่วยให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์หรือบล็อกของเรามีคุณภาพและส่งผลดีต่อ SEO ซึ่งจะช่วยทำให้เว็บไซต์ของเรามีคนเข้าดูเยอะและมีโอกาสในการรับรายได้ที่เยอะขึ้นตามไปด้วย

ตรงจุดนี้ถือว่าสำคัญมากเลยนะคะ เพราะเมื่อก่อนที่จะมาทำ investwallet ตัวดิฉันเองก็มีเว็บไซต์ที่เขียนเนื้อหาลงไปเยอะประมาณหนึ่ง(300 กว่าบทความ)หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้อัพเดตเลย ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 เดือนไม่ได้อัพเดตอะไรเลยนะคะ ผลปรากกว่ารายได้ลดลงไปเยอะมาก ซึ่งกว่าจะกลับไปกอบกู้กลับมาให้เป็นเหมือนเดิมได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกันค่ะ ดังนั้นจึงอยากเตือนเพื่อน ๆ ด้วยความหวังดีด้วยว่า หากไม่อยากเหนื่อยเพิ่มเติมเหมือน investwallet เมื่อก่อน อย่าทิ้งการอัพเดตเว็บไซต์นะคะ

เป็นเรื่องยากที่จะได้รับเงินทันทีจากบทความที่เขียน

อย่างที่เราบอกไปแล้วนะคะ ว่าการเขียนบทความลงเว็บไซต์หรือบล็อกนั้นไม่ใช่งานที่ทำแล้วรวยในช่วงข้ามคืน มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้รับเงินทันทีจากเว็บของเรา ซึ่งจุดนี้คนเกินครึ่งที่วางแผนจะสร้างรายได้แบบเสือนอนกินกับการทำเว็บไซต์หรือบล็อกท้อแท้และถอดใจไปกลางคัน

เนื่องจากพวกเขาเหล่านั้นคิดว่า แค่เขียนบทความหรือเนื้อหาอัพจนผ่านการอนุมติและติดโฆษณาจาก Google ได้แล้ว ก็ถือว่าพอแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันห่างกันมาก การที่เรามีบทความในเว็บไซต์หรือบล็อกแค่20-30 บทความนั้นยังไม่พอที่เราจะนั่งรอรับเงินอย่างเดียวได้

โดยถ้าหากให้เปรียบเทียบก็คงจะเหมือนกับเราปลูกต้นไม่ค่ะ กว่าที่เราจะได้เก็บผลไม้กินได้ ต้นไม้บางชนิดก็อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ การทำเว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน กว่าที่เราจะนั่งเก็บผลรายได้ในแต่ละเดือนได้ เราก็ต้องหมั่นเพิ่มบทความหรือเนื้อหาไปเรื่อย ๆ ค่ะ

ซึ่งหากเพื่อน ๆ คิดเองไม่ออกไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรแล้ว การจ้างคนเขียนบทความก็ถือว่ายังทางออกที่ดีเช่นกันค่ะ แต่การจ้างเขียนบทความนั้นเราก็ต้องเลือกให้ดี เพราะว่าคนที่รับจ้างเขียนบทความบางคนอยากได้เงินเยอะ ๆ เขาก็อาจจะไปก็อปบทความคนอื่นมาขายเราได้ ดังนั้นเมื่อตัดสินใจจะจ้างเขียนบทความ เราจำเป็นต้องเช็คให้ละเอียดนะคะ

เผย 2 เคล็ดลับเขียนบล็อกยังไงให้สำเร็จได้ภายใน 2 เดือน

หลังจากที่เพื่อน ๆ ตัดสินใจว่าจะเขียนบล็อกเพื่อหารายได้แล้ว และมีความมุ่งมั่นตั้งใจและวางเป้าหมายเอาไว้อย่างแน่แท้ Investwallet ของเราก็มี 2 เคล็ดลับเด็ด ๆ ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ เขียนบล็อกหรือเว็บไซต์ให้สำเร็จอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาแค่ 2 เดือนเท่านั้น จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ

ในช่วงเริ่มต้นให้เน้นการเขียนบทความของบล็อก

ในช่วงแรก ๆ ของการเขียนบล็อก หลังจากที่เราเลือกแล้วว่าเราจะเขียนบล็อกเกี่ยวกับเรื่องอะไร หลังจากนั้นก็เน้นการเขียนเนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องที่เราจะเขียนค่ะ พยายามเขียนหลาย ๆ บทความและเขียนบ่อย ๆ พร้อมทั้งหาข้อมูลใหม่ ๆ เข้ามาประกอบเพื่อให้เนื้อหาของเราแน่นและมีเอกลักษณ์

โดยในช่วงแรก ๆ เราจะยังไม่สามารถจี้จุดโดยตรงได้ ว่าจุดไหนเป็นจุดแข็ง จุดไหนเป็นจุดอ่อน ดังนั้นเราจึงต้องเขียนบทความเพิ่มเนื้อหาของบล็อกลงไปเรื่อย ๆ และพอได้สักระยะเวลาหนึ่ง เราก็ต้องมาทำการวิเคราะห์เนื้อหาในเว็บไซต์เรา ว่าเนื้อหาประเภทไหนที่มีคนเข้าดูมากที่สุด เพื่อที่จะได้มุ่งเน้นไปให้ตรงจุดค่ะ

เพิ่มบทความคุณภาพดี ที่ตอบสนองความต้องการของผู้เข้าชม

หลังจากที่เราลงเนื้อหาบทความ ในเว็บของเราแล้ว ให้เราติดตั้ง Google search console คราวนี้เราก็จะสามารถวิเคราะห์ดูได้ ว่าบทความไหนในเว็บของเราได้รับความนิยม หรือมีคนเข้าชมมากที่สุด และเมื่อเรารู้แล้ว เราก็นำประเด็นตรงที่มีคนสนใจเยอะ ๆ มาแตกย่อยอีกทีให้มันละเอียดขึ้น และมุ่งเน้นเขียนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่คนสนใจมากที่สุดเพิ่มขึ้นอีก ก็จะช่วยให้คนเข้าชมเว็บไซต์ของเราเยอะยิ่งขึ้นค่ะ

คราวต่อไปเพื่อน ๆ ก็ทำในรูปแบบเดิม วนซ้ำไป คือเขียนเนื้อหา ,วิเคราะห์และเจาะจงเนื้อหาที่มีคนเข้าชมเยอะ ผ่านไป 2 เดือน รับรองได้เลยว่ายอดคนเข้าชมเว็บไซต์ของเพื่อน ๆ จะพุ่งขึ้นแบบขั้นบันได ซึ่งรายได้ก็จะก้าวกระโดดตามไปด้วย

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คิดว่าเพื่อน ๆ คงจะพร้อมที่จะเริ่มต้นสร้างเว็บบล็อกหรือเว็บไซต์ของตัวเองแล้วใช่ไหมคะ เอาล่ะค่ะ เรามาเริ่มต้นสร้างเว็บเพื่อทำรายได้กันเลยดีกว่า กับ

4 ขั้นตอนสร้างบล็อกหรือเว็บไซต์ด้วยตัวเองง่าย ๆ ไม่ต้องง้อโปรแกรมเมอร์

จดโดเมนเนม

โดเมนเนม (domain name) ก็คือชื่อเว็บไซต์ของเรา เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อง่ายต่อการจดจำ แต่จะดีขึ้นมากหากชื่อโดเมนเนมของเรา สอดคล้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์ที่เราต้องการจะทำด้วย ซึ่งการจดโดเมนเนม เพื่อน ๆ สามารถเข้าได้ที่ หน้าบริษัทโดเมนที่เพื่อน ๆ ต้องการจดด้วยได้เลย

เช่น เพื่อน ๆ จะจดโดเมนเนมกับ Godaddy ก็เข้าไปที่ https://th.godaddy.com แล้วตรวจเช็คดูว่าชื่อที่เราต้องการจะจดนั้นว่างอยู่หรือไม่ ซึ่งถ้าว่างอยู่เราก็ยื่นจดได้เลยค่ะ โดยการยื่นจดโดเมนเนมนั้นมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่หลักร้อยและต้องต่ออายุรายปีค่ะ

เช่าเซิร์ฟเวอร์จาก บริษัทให้บริการเซิร์ฟเวอร์

การเช่าเซิร์ฟเวอร์ เราเรียกแบบสั้น ๆ ว่าการเช่าเว็บโฮสติ้ง โดยเว็บโฮสติ้งจะทำหน้าที่จัดเก็บฐานข้อมูลเว็บไซต์และข้อมูลต่าง ๆ ของเว็บไซต์เราและทำหน้าที่เป็นสื่อกลางแสดงผลให้ผู้เข้าชมเว็บของเราเข้าชมได้ตลอดเวลา

ซึ่งเว็บโฮสติ้งในท้องตลาดนั้นมีให้บริการเยอะมาก ๆ ราคาต่อปีก็ไม่แพง ซึ่งเพื่อน ๆสามารถเลือกพื้นที่และความแรงของเว็บโฮสติ้งได้ตามที่เพื่อน ๆ ต้องการได้เลยค่ะ แต่ถ้ายังไม่รู้จะเลือกเช่าเว็บโฮสติ้งที่ไหนดี แนะนำที่ Godaddy เลยค่ะเนื่องจาก Godaddy ถือว่าใช้ดีที่สุดแล้วเท่าที่เคยมีคนรีวิวมาให้ฟัง แต่หากเพื่อน ๆ มี เว็บโฮสติ้งในใจอยู่แล้วก็เลือกจดกับที่นั่นได้เลยค่ะ

ติดตั้ง wordpress บน เซิร์ฟเวอร์

หลังจากเช่าโฮสต์และจดโดเมนเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาทำเว็บไซต์ของเราให้เป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ การที่เราจะทำเว็บไซต์หรือบล็อกเกี่ยวกับเนื้อหาบทความแนะนำติดตั้ง wordpress บน เซิร์ฟเวอร์ค่ะ


WordPress คืออะไร? อยากเป็นบล็อกเกอร์ทำไมต้องใช้ WordPresss เรารวบรวมทุกคำตอบที่ควรรู้ของ WordPress มาให้ครบจบในบทความเดียวค่ะ

ข้อดีของการใช้ wordpress ก็คือ

  1. ใช้งานง่าย แม้แต่คนที่เป็นมือใหม่มาก ๆ ก็สามารถทำด้วยตัวเองได้
  2. นอกจากนี้ยังมีธีม(Theme) สวย ๆ ให้เลือกใช้มากมาย ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน ซึ่งหากในขั้นแรกไม่อยากต้องลงทุนมากมายนัก ธีมแบบฟรีสวย ๆ ก็มีให้ใช้เยอะแยะค่ะ ซึ่งวันหนึ่งหากมีรายได้เยอะแล้ว และอยากเปลี่ยนธีมใหม่ให้สวยกว่าเดิมค่อยซื้อก็ไม่เสียหาย แต่จะใช้แบบฟรีไปตลอดก็ไม่มีปัญหาอะไร
  3. เนื่องจากมีคนนิยมใช้เยอะ หากเกิดปัญหาขึ้นมา เราก็สามารถเสิร์ชหาข้อมูลหรือวิธีแก้ไขได้ง่าย
  4. ที่สำคัญ wordpress มีจุดแข็งในด้าน SEO ที่ได้รับการยอมรับจากคนในวงการเว็บไซต์ ซึ่งก็เหมือนว่า การที่เราทำเว็บด้วย wordpress ก็เหมือนเราทำ SEO ไปแล้วมากกว่าครึ่ง ซึ่งเราแค่มาเรียนรู้และเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็ทำให้เว็บของเราไปไกลได้อย่างรวดเร็ว

วิธีอัพโหลด WordPress ลงเว็บโฮสติ้ง ง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้

1.ล็อกอินเข้าระบบ DirectAdmin

2.ตรงหน้า Home ให้เราเลื่อนลงมาข้างล่างสุดก็จะเจอกับเมนู Web Applications จากนั้นให้เรากดเลือกที่ WordPress

3.เมื่อคลิกเลือกแล้ว ระบบก็จะพาเราเข้ามาที่หน้าจอของการติดตั้ง ให้กดคลิกที่ปุ่ม Install this application ได้เลยค่ะ

4.ตรง Location ในช่อง Domain ให้เราเลือกที่อยู่เว็บที่เราต้องการติดตั้ง WordPress ซึ่งในที่นี้ก็คือ ชื่อเว็บไซต์ของเพื่อน ๆ เองค่ะ

5.ตรง Directory ให้เราลบคำว่า Blog ออก ถ้าเราไม่ลบออกเว็บของเราจะสามารถมองเห็นได้แค่บล็อกเท่านั้น ซึ่งเราเองเคยปล่อยไว้ไม่ลบออกปรากฏว่าต้องลงใหม่จ้า ดังนั้นเพื่อน ๆ อย่าลืมลบคำว่า Blog ออกด้วยนะคะ

6.ตรง Settings ให้ใส่ Usename กับ password

7.ตรง Administrator Email ก็ใส่อีเมลของเราลงไป

8.Website Title ตรงนี้ให้ใส่ชื่อของเว็บไซต์เราที่เราต้องการได้เลย

9.Website Tagline ตรงนี้ก็ใส่คำอธิบายเกี่ยวกับเว็บไซต์ของเราค่ะ หลังจากตั้งค่าแล้วก็ให้กดปุ่ม Install ด้านล่างได้เลยค่ะ

10.หลังจากติดตั้งเรียบร้อยก็จะขึ้นหน้านี้ค่ะ ซึ่งตัวที่ลูกศรหมายเลข1 ชี้ก็คือหน้าเว็บไซต์ของเรา ตรงลูกศรหมายเลข 2 ชี้ ก็คือหลังบ้านของเว็บไซต์ที่ให้เราเข้าไปจัดการนั่นเองค่ะ

เห็นไหมล่ะคะ ง่ายๆ แค่นี้เราก็มีเว็บไซต์ของเราพร้อมที่จะเนื้อหาบทความและสร้างรายได้ออนไลน์ให้เราเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งมาถึงจุดนี้เหลือเพียงการตั้งค่าอีกแค่อย่างเดียวเว็บไซต์ของเราก็พร้อมที่จะออกไปสู่สายตาชาวโลกแล้ว และขั้นตอนสุดท้ายที่เราจะต้องทำก็คือ

การเลือกธีมสวยๆของ wordpress

หลังจากติดตั้ง wordpress ลงเว็บของเราแล้ว เราก็ต้องมาเลือกธีมสวย ๆ ลงเว็บไซต์ของเราค่ะ ซึ่งการเลือกธีมสวย ๆ ก็ไม่ได้ยากเลย และเพื่อน ๆ สามารถทำตามวิธีข้างล่างได้เลยค่ะ

1.ล็อกอินเข้าหลังบ้านของเว็บไซต์เรา กรอก Username และ Password จากนั้นกดที่เข้าสู่ระบบ

2.เมื่อเข้ามาแล้วให้มองไปที่ด้านซ้ายมือและมองหาเมนูรูปแบบเว็บและเลือก ธีม

3.ด้านบนเราจะเจอเมนูเพิ่มธีมใหม่ กดเข้าที่เพิ่มธีมใหม่ได้เลยค่ะ

4.เมื่อเข้ามาแล้วเราจะเห็นธีมสวย ๆ มากมาย กดเลือกได้ตามใจเลยค่ะ และเมื่อเลือกได้แล้วก็กดติดตั้ง เมื่อติดตั้งเสร็จก็กดใช้งาน แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ

เป็นยังไงบ้างคะกับเทคนิคการหารายได้เสริมจากการเขียนบล็อกพร้อมวิธีทำง่าย ๆ ที่เราได้นำเสนอไป คาดว่าจะเป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ ที่ต้องการมีเว็บไซต์หรือบล็อกของตัวเองที่ทำได้ด้วยตัวเอง เหมาะสำหรับคนงบน้อยที่ต้องการเซฟทุนอย่างที่สุด หรือเหมาะกับมือใหม่ที่อยากลองทำและอยากมีประสบการณ์ด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปเสิร์ชหาที่อื่นให้มากมายเพราะเรารวบรวมมาไว้ให้ในที่เดียวค่ะ

หากเพื่อน ๆ มีข้อสงสัยตรงไหน ก็สามารถคอมเม้นท์ถามเข้ามาได้นะคะ และอย่าลืมคอยติดตามบทความใหม่ ๆ ในเว็บไซต์ของเราด้วยนะคะ เชื่อเหลือเกินว่าข้อมูลต่าง ๆ ที่เรามีจะช่วยให้เพื่อน ๆ มือใหม่ที่อยากเริ่มต้นหารายได้ออนไลน์ด้วยตัวเองประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจหวังนะคะ

Exit mobile version