Site icon Investwallet

สอนหารายได้กับ Amazon kindle

สอนหารายได้กับ Amazon kindle

อยากหารายได้กับ Amazon kindle แต่ไม่รู้จะทำยังไงและไม่เก่งภาษาอังกฤษใช่ไหม?
เรามีเทคนิคลับที่จะช่วยให้คุณได้รับเงินจากการขายหนังสือ โดยที่ไม่ต้องลงทุน
เทคนิคนี้ไม่ค่อยมีคนแชร์กันมากนักเพราะเขาเก็บไว้เป็นคอร์สขาย แต่เรานำมาแชร์ฟรี ๆ
โดยเนื้อหาจะบอกตั้งแต่วิธีการหาหนังสือไปจนถึงการลงขาย เมื่อคุณอ่านบทความนี้จบ
คุณจะหมดข้อสงสัยว่าทำไมคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษหรือไม่มีหนังสือในมือก็มีรายได้จากการขายหนังสือ
ที่สำคัญได้เยอะเสียด้วยถ้าขยันค่ะ

Amazon kindle คืออะไร

Amazon kindle หลายคนรู้จักกันสั้น ๆ ว่า KDP โดยชื่อเต็มก็คือ Kindle Direct
Publishing เป็นส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ Amazon ที่เปิดให้ผู้คนสามารถเผยแพร่,อ่าน,
ซื้อและขาย e-book ได้

โดยหนังสือที่จะลงขายใน Amazon kindle ยังจำเป็นต้องเป็นภาษาอังกฤษอยู่เนื่องจากคนอ่านทั่วโลกจะเข้าใจภาษาอังกฤษเยอะกว่า และ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีหนังสือภาษาอื่น ๆ อยู่ด้วยแต่ก็ไม่เยอะเท่าภาษาอังกฤษ

ส่วนคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษก็ยังพอมีหนทางที่จะหาเงินจากการขายหนังสือได้
เช่น

  1. ซื้อบทความ PLR แล้ว มามัดรวมขาย
  2. จ้างคนอื่นเขียนหนังสือให้
  3. หาหนังสือฟรีมาขาย

ซึ่งเราจะขออธิบายทั้ง 3 วิธีข้างต้น ดังนี้

ซื้อบทความ PLR แล้วมามัดรวมขาย

บทความ PLR หรือ Private Label Right เป็นบทความที่มีคนเขียนแล้วนำมาขายที่เมื่อถูกซื้อไปแล้ว เราสามารถเอาไปแก้ไข ดัดแปลง หรือปู้ยี้ปู้ยำยังไงก็ได้ เช่น คุณซื้อ บทความ
PLR มาสัก3-5 เล่ม(ในเนื้อเรื่องเดียวกัน)จากนั้นนำมามามัดรวมกันแล้ว Rewrite ออกมาเป็นหนังสือใหม่สัก 1-2 เล่ม
แล้วลงขายใน Amazon kindle

แต่วิธีนี้อาจจะต้องเสียเงินลงทุนในการซื้อบทความ PLR รวมถึงจ้างคน Rewrite ด้วยค่ะ

จ้างคนอื่นเขียนหนังสือให้

วิธีนี้หลายคนคงนึกออก
เพราะปัจจุบันมีนักเขียนทั้งไทยและต่างประเทศรับจ้างเขียนกันเยอะมาก โดยคุณอาจจะมีหนังสือที่ตัวเองเขียนเป็นภาษาไทยอยู่แล้วแต่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็จ้างคนอื่นแปลงให้เป็นภาษาอังกฤษ หรือ ไม่คุณก็อาจกำหนดเนื้อเรื่องแล้วจ้างนักเขียนให้เขียนให้ทั้งหมดเลยก็ได้ และเมื่อได้มาแล้ว คุณก็เอามาลงขายใน Amazon kindle แต่ วิธีนี้จะทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น ตามจำนวนคำหรือความยาวของเนื้อหา ค่ะ

การหาหนังสือฟรีมาลงขาย

การหาหนังสือฟรีมาขายถือเป็นการเริ่มต้นสำหรับคนงบน้อยได้ดีมาก ๆ ค่ะ
และเป็น Gimmick หลักของบทความนี้ และหนังสือฟรีที่ว่า ก็คือ การนำ public domain มาปัดฝุ่นแล้วขายใหม่ค่ะ และเราจะบอกกลวิธีการหาหนังสือ public
domain ให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน

หนังสือ public domain คืออะไร

หนังสือแบบ public domain หรือเรียกย่อ ๆ ว่า PD คือ หนังสือที่เป็นสมบัติสาธารณะ
ไม่มีเจ้าของ ไม่มีลิขสิทธิ์และทุกคนสามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ

การที่จะหาหนังสือแบบ public domain อาจจะต้องศึกษาเรื่องข้อกำหนดลิขสิทธิ์ในแต่ละประเทศให้ดีด้วย
แต่สำหรับมือใหม่ที่ต้องการลงขายใน Amazon kindle ที่ไม่มีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษมาก แนะนำให้ เลือกหนังสือที่เผยแพร่ก่อนปี 1923 ค่ะ เนื่องจากหนังสือที่เผยแพร่ก่อน 1923
ถือว่าเป็นสมบัตรสาธารณะทั้งหมด

อ้างอิงจาก https://copyright.cornell.edu/publicdomain

ข้อควรระวังในการขายหนังสือแบบ public domain

เนื่องจากหนังสือแบบ public domainเป็นสมบัติสาธารณะ จึงมีคนนำมาขายใน Amazon kindle เยอะมาก ซึ่งนอกจากจะมีคนขายเยอะแล้ว ทาง Amazon ยังมีแจกให้อ่านฟรีกันอีกด้วย และ ถ้าเราจะนำหนังสือ public domain ไปลงขายในแบบเดิม ๆ ที่มีคนขายเยอะแล้วเราอาจจะโดน Amazon แบน Account ได้ค่ะ

ดังนั้นเราจึงต้องนำหนังสือ public domain มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงซะใหม่ ให้แตกต่างจากที่มีใน Amazon

โดย Amazon kindle ได้ออกกฎไว้ว่า การจะลงขายหนังสือ public domain ต้องมี 3 อย่างนี้ คือ

  1. เนื้อหาที่ถูกแปลแล้วหรือแปลแบบไม่ซ้ำกัน
  2. ใส่คำอธิบายหรือเนื้อหาเพิ่มเติม เช่น คู่มือการศึกษา บทวิจารณ์วรรณกรรม ชีวประวัติโดยละเอียด หรือบริบททางประวัติศาสตร์
  3. ใส่ภาพประกอบที่เกี่ยวข้อง 10 ภาพขึ้นไป

ยิ่งหนังสือที่คุณลงขายมีความแตกต่างจากคนอื่นมากแค่ไหน โอกาสผ่านก็จะสูงขึ้น ซึ่งถ้าจากทั้ง 3 ข้อนี้ ง่ายที่สุดเลย ก็แค่ ใส่ภาพประกอบไปสัก 10 ภาพก็ได้แล้วค่ะ

แนะนำแหล่งหาหนังสือ public domain ฟรี

มีเว็บไซต์หลายเว็บไซต์ที่รวบรวมหนังสือ public domain เอาไว้ แต่ที่เราจะมาแนะนำ คือ https://www.gutenberg.org/ ค่ะ

Gutenberg ถือเป็นเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมหนังสือ public domain ไว้มากถึง 60,000
เล่ม และหนังสือเหล่านั้นจะทำเงินให้เราค่ะ

หลังจากเข้าเว็บไซต์ Gutenberg ไปแล้ว คุณจะเห็นหนังสือมากมาย หากคิดไม่ออกว่าจะเลือกเล่มไหนก็ลองเข้าไปที่ Frequently downloaded ดูค่ะ เพราะตรงนั้นจะเป็นยอดหนังสือที่มีคนโหลดไปมากที่สุด 100 อันดับ

จากภาพเราจะเห็นรายชื่อหนังสือและจำนวนคนที่โหลดไปในช่วง 7 วันจากนั้นก็ลองอ่านชื่อหรือเลือกที่คุณต้องการค่ะ โดยกดคลิกตรงชื่อหนังสือได้เลยค่ะ

เมื่อคลิกแล้วเราจะเห็นหนังสือที่เราเลือกเมื่อสักครู่ และ จะมีตัวเลือกให้เราดาวน์โหลดมากมาย เช่น

  1. HTML
  2. EPUB
  3. KINDLE
  4. PDF
  5. TEXT

เลื่อนมาด้านล่างเราจะเห็นรายละเอียดของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งตรง Author ก็คือ ชื่อผู้เขียนและปีที่เขียน โดยหากหนังสือเล่มนั้น เผยแพร่ก่อนปี 1923 ก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ

อีกจุดหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจก็คือ ในส่วนของ Copyright Status ด้านล่าง ก็จะเขียนว่า Public domain in the USA ก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ

หลังจากที่ดาวน์โหลดหนังสือไปแล้ว
คุณก็เอาไปเพิ่มรูปภาพประกอบและ อย่าลืมตัดส่วนหัวและท้ายของหนังสือออกด้วยนะคะ
ที่เขียนว่า The Project Gutenberg EBook

เพราะลูกค้าจะได้ไม่รู้ว่าเราไปเอาของฟรีมาขาย (แต่จริงๆเขาคงรู้แหละ)

และเมื่อเตรียมหนังสือพร้อมแล้ว ก็เอาไปลงขายใน Amazon kindle ค่ะ

การสมัคร Amazon KDP

การสมัคร Amazon KDP นั้นทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เรากรอกรายละเอียดต่างๆที่เขาต้องการลงไปเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องระวัง นั่นคือ Amazon ระบุว่า หนึ่งบุคคลสามารถมีบัญชี Amazon KDP ได้เพียงหนึ่งบัญชีเท่านั้น หาก Amazon ตรวจพบว่าเรามี Account มากกว่าหนึ่งบัญชีอาจถูกแบนได้ค่ะ

หากใครยังไม่มีบัญชี Amazon kindle แนะนำให้สมัครก่อนค่ะโดยกดเข้าที่ https://kdp.amazon.com/

แต่หากสมัครไม่เป็นสามารถดูตัวอย่างการสมัครได้ที่นี่ค่ะ (สมัครไปก่อนนะคะ รายละเอียดการรับเงินและอื่น ๆ เราค่อยมาอัพเดตทีหลังได้ค่ะ)

การสมัคร Payoneer เอาไว้รับเงินจาก Amazon KDP

หลังจากสมัคร Amazon เรียบร้อยแล้ว ต่อไป เราต้อง สมัคร Payoneer ไว้ก่อนเพื่อเอาไว้รับเงินค่ะ โดยการสมัคร Payoneer ถือเป็นทางออกที่ดีมากสำหรับคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารในสหรัฐอเมริกา โดยคุณสามารถสมัคร Payoneer โดยคลิกที่ https://www.payoneer.com/

หรือดูวิธีการสมัครได้ที่นี่

โดยหลังจากที่เราสมัครบัญชี Amazon และกรอกบัญชีรับเงินเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการลงขายหนังสือที่เราทำการโหลดและเพิ่มรูปภาพไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้ไว้ นั่นก็คือ ส่วนแบ่งในการขายหนังสือ หากหนังสือที่ลงขายเราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรง เราจะได้รับส่วนแบ่ง 70 % ของราคาหนังสือ แต่หากเราลงขายหนังสือ public domain เราจะได้ส่วนแบ่งที่ 35 % เท่านั้นนะคะ

ขั้นตอนการลงขายหนังสือใน Amazon KDP

หลังจากที่เราโหลด Ebook ฟรีมาจาก Gutenberg และได้เพิ่มรูปภาพประกอบเข้าไปแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะมาอัพ Ebook นั้นลงขายใน Amazon kindle ค่ะ

โดยขั้นตอนการลงขายหนังสือสามารถดูได้ที่นี่

สรุป : เราสามารถหาหนังสือฟรีมาใส่รูปภาพประกอบและลงขายได้

เพียงแค่เราต้องตรวจเช็คว่าหนังสือที่เราเลือกนั้นเผยแพร่ก่อนปี 1923 โดยหนังสือ Public domain นั้นมีเยอะมาก หากเราลงได้วันละ 2-3 เล่มทุกวัน ผ่านไป 1 เดือนเราจะมีหนังสือในร้านอยู่ 60-90 เล่มและรายได้ก็จะเข้ามาตามจำนวนหนังสือที่เราขายไปค่ะและลองคิดดูสิถ้าเราเพิ่มหนังสือให้มากขึ้น เราจะได้เงินมากขึ้นขนาดไหน

Exit mobile version