Site icon Investwallet

เล่าเรื่องผีหลอน EP.10 เธอตายวันลอยกระทง

เล่าเรื่องผีหลอน EP.10 เธอตายวันลอยกระทง
YouTube video player

ผีตายโหงใครๆก็รู้ว่าเฮี้ยนนัก เพราะการตายอย่างปัจจุบันทันด่วนทำให้จิตสุดท้ายก่อนตายยังผูกติดอยู่กับอารมณ์ของความหวาดกลัว ความตกใจ ความอาฆาตแค้น หรืออาลัยอาวรณ์ ทำให้วิญญาณทุกข์ทรมาน ไม่สงบสุข และมักจะวนๆเวียนๆอยู่กับที่ที่ตนเองตาย และการที่ยังไม่ยอมรับสภาพปัจจุบันของตนเอง จึงทำให้คนมักจะได้เห็นผีตายโหงกันอยู่บ่อยๆ ดังเรื่องราวที่จะเล่าให้ฟังกันในวันนี้

เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นในวันลอยกระทงเมื่อ 5 ปีที่เเล้ว น้องผึ้ง เป็นลูกสาวของเจ้าของโรงสีข้าวในตำบลหนึ่งของจังหวัด ปีนั้นเธออายุเพิ่งจะเข้า 17 ปี เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยม 5 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังในตัวเมืองของจังหวัด

ด้วยความที่บ้านของเธอนั้นอยู่ค่อนข้างไกลตัวเมือง

พ่อน้องผึ้งจึงตัดสินใจซื้อรถเก๋งให้ลูกสาวขับไปเรียนเพราะกลัวอันตรายจากวัยรุ่นระแวกนั้น

น้องผึ้งเป็นคนสวย สูงโปร่ง รูปร่างดี ดังนั้นจึงได้เป็นตัวกิจกรรมของโรงเรียน และวันที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้คือวันลอยกระทง น้องผึ้งได้รับเลือกให้เป็นเทพีถือกระทงประจำโรงเรียน เธอจึงนัดเพื่อน 4 คนมาที่บ้านตั้งแต่รุ่งเช้า เพื่อให้ช่างแต่งหน้าที่จ้างมาแต่งหน้าแต่งตัวให้

หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง ช่างก็ยังแต่งหน้าให้ทั้งสี่คนไม่เสร็จ จนใกล้บ่าย 3 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่เธอจะต้องไปเตรียมตัวขึ้นรถแห่เพื่อตั้งขบวน น้องผึ้งเร่งช่างให้รีบทำให้เสร็จไว ๆ จนในที่สุดพวกเธอทั้งสี่คนก็แต่งหน้าเสร็จในเวลาที่เฉียดฉิวมาก หลังจากแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จ น้องผึ้งจึงรีบเก็บของขึ้นรถ แล้วรีบร้อนออกจากบ้านทั้งที่ยังไม่ได้บอกลาพ่อ แม่ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้พบเจอกับท่านทั้งสอง

รถเก๋งของน้องผึ้งขับออกจากบ้าน ห่างออกไปไม่ถึง 7 กิโลเมตร ก็ประสบอุบัติเหตุ กู้ภัยเล่าว่าเพื่อนของน้องผึ้งซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างคนขับ และอีกสองคนที่นั่งข้างหลังนั้นรอดชีวิต จึงได้ทำการส่งตัวไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่โชคร้ายที่น้องผึ้งซึ่งเป็นคนขับนั้นเสียชีวิตคาที่

สภาพรถถูกอัดก็อปปี้เข้ากับต้นไม้ใหญ่ริมถนน ร่างน้องผึ้งถูกอัดเสียชีวิตคาพวงมาลัย และร่างของเธอนั้น บริเวณใบหน้าถูกเครื่องประดับบนศีรษะลักษณะคล้ายมงกุฏที่เป็นทองแดง บาดเข้าที่บริเวณริมฝีปากยาวไปจนถึงหู จนมองเห็นฟันและเหงือกด้านในเป็นที่น่าสยดสยอง คนที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นเล่าว่า รถเธอวิ่งมาด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะหักหลบสุนัขที่วิ่งตัดหน้า ทำให้เสียหลัก ลงไปชนอัดกับต้นไม้ใหญ่ริมถนน

หลังจากงานศพน้องผึ้งผ่านไปยังไม่พ้นคืนที่ 3 ชาวบ้านแถวนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ครวญครางยามดึก บางคนทนไม่ไหวถึงกับต้องจุดประทัดไล่ บางคนก็กลัวมากจึงไปบอกให้พ่อกับแม่เธอ หาคนมาอัญเชิญวิญญาณของลูกสาวกลับบ้าน แต่เนื่องจากพ่อของเธอนั้นเป็นคนมีฐานะและมีหน้ามีตา จึงตั้งใจจัดงานศพให้ลูกสาว 7 วัน 7 คืน

พ่อเธอจึงยังยุ่งอยู่กับการเตรียมงานและรับแขก จึงคิดว่าจะทำการอัญเชิญวิญญาณเธอหลังเสร็จสิ้นงานศพ

ชาวบ้านแถวนั้นจึงต้องเผชิญกับเรื่องราวความเฮี้ยนและการหลอกหลอนผู้คนที่ผ่านไปมาตรงที่เธอเสียชีวิต

สองสามีภรรยาคู่หนึ่ง ขับรถมอเตอร์ไซค์ฝ่าลมหนาวหลังเลิกงานจากกะดึก ท่ามกลางถนนมืดมิด ปรากฏร่างของหญิงสาวเดินอยู่ริมขอบถนน เมื่อไฟรถเข้าใกล้ร่างนั้น ทั้งคู่ก็ต้องแปลกใจเพราะร่างของหญิงสาวนั้นใส่ชุดไทยเต็มยศ เกล้าผมสวยงาม ทั้งคู่ค่อย ๆ ขับผ่านร่างนั้นช้า ๆ และหันกลับไป เพื่อหวังจะเห็นใบหน้าของหญิงสาวชุดไทยที่มาเดินกลางดึกกลางดื่นเช่นนี้

แล้วทั้งสองคนก็เห็นใบหน้าของสาวสวยแต่งหน้างดงาม กำลังยิ้มให้ทั้งคู่ แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็กว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนริมฝีปากทั้งสองข้างเกือบจะถึงใบหู พร้อม ๆ กับที่มีเสียงดัง แคว่ก……! เหมือนกระดาษขาด แล้วขากรรไกรก็หลุดออกจากใบหน้าของเธอ สองคนผัวเมียตกใจลมแทบจับ จึงประคองรถไว้ไม่ได้ รถของทั้งสองพุ่งลงข้างทางทันที แต่โชคยังดีที่บริเวณนั้นเป็นพงหญ้าขึ้นสูง จึงช่วยรองรับทั้งคู่ไว้ ทำให้ทั้งสองมีเพียงแค่บาดแผลถลอกตามร่างกายเล็กน้อยเท่านั้น

ทั้งสองรีบวิ่งออกจากบริเวณนั้น วิ่งไปตามทางที่มืดมิด

จนกระทั่งไปเจอบ้านของชาวบ้านที่อยู่แถวนั้น ทั้งสองจึงได้เล่าสิ่งที่เพิ่งพบเจอมาให้ชาวบ้านฟัง และเรื่องราวความเฮี้ยนนี้ก็ถูกเล่าต่อ ๆ กันจนแพร่ไปทั่วจังหวัดในเวลานั้น จนไม่มีใครกล้าเดินทางผ่านถนนตรงนั้นในเวลากลางคืนเลย จนเสร็จสิ้นงานศพ พ่อแม่ของเธอจึงให้คนมาอัญเชิญวิญญาณของเธอให้ไปสู่สุขคติ ชาวบ้านจึงไม่พบเจอกับวิญญาณสาวสวยใส่ชุดไทย และฉีกยิ้มจนปากถึงใบหูอีก แต่มีข่าวลือว่า เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนของเธอนั้นพากันเล่าว่า ที่นั่งที่เธอเคยนั่งเรียนนั้นจะไม่มีใครกล้านั่ง

ช่วงแรก ๆ ที่เธอเสีย ทั้งครูและนักเรียนในชั้นมักจะได้กลิ่นธูปตลบอบอวลอยู่ในห้องเรียน จนเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ กลิ่นจึงหายไป พร้อม ๆ กับเรื่องราวความเฮี้ยนของเธอ ที่ยังอยู่ในความทรงจำของชาวบ้านรวมถึงตัวผู้เล่า ด้วยความรู้สึกสงสารและเศร้าสลดใจ
ผู้เล่าเองก็ขอให้ดวงวิญญาณของน้องไปสู่สุขคตินะคะ

Exit mobile version