มีใครเคยเล่นผีถ้วยแก้วที่โรงเรียนกันบ้างไหมคะ เคยเจอประสบการณ์หลอนๆกันบ้างรึเปล่า โรงเรียนที่เราเรียนกันอยู่ในช่วงเวลากลางวัน อาจจะดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แต่พอตกกลางคืนโรงเรียนก็จะดูหลอนไปในทั้งๆที่ตอนกลางวันเรายังเล่น ยังเดินผ่านบริเวณโรงเรียนอย่างไม่คิดอะไรแต่พอพลบค่ำกลับดูเหมือนคนละโลกที่เรารู้จักเลย อีกอย่างโรงเรียนยิ่งเก่าและตั้งอยู่มานานก็มักจะมีเรื่องราวลี้ลับซ่อนอยู่ ซึ่งเรื่องที่เราจะนำมาเล่าให้ฟังกันในวันนี้เป็นเรื่องจาก คุณจารุวัฒน์ ที่เล่าเรื่องราวหลอนๆเกี่ยวกับผีรุ่นพี่ที่เขาได้ไปเจอมา โดยคุณจารุวัฒน์ได้เล่าว่า
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.2550 ขณะที่ผมกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบ ผมและกลุ่มเพื่อนจึงนัดติวหนังสือเตรียมสอบกันที่หลังตึของคณะตอนประมาณ 2-3 ทุ่ม ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นมีลักษณะเป็นพื้นต่างระดับที่เชื่อมกับตึกสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร มีขั้นบันไดเล็กๆ 4-5 ขั้นเพื่อเข้าสู่ตึก และมีลานโล่งๆ สี่เหลี่ยมจตุรัส ผมและกลุ่มเพื่อนนั่งติวกันบริเวณขั้นบันได ผมนั่งตรงบันไดชั้นล่างสุดโดยหันหน้าเข้าหากันเป็นวงกลม แล้วทวนเนื้อหากันในลักษณะถาม-ตอบ แต่เนื่องจากผมไม่ได้อ่านมาจึงตามเพื่อนไม่ค่อยทัน เลยหันหน้าออกไปทางลานเพื่อที่จะอ่านหนังสือเองก่อน
ตอนนั้นเองผมได้เหลือบตามองไปทางซ้าย เห็นขากางเกงสีดำของใครคนหนึ่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนผมที่จอดอยู่ จึงหันขึ้นไปมอง เห็นเป็นผู้ชายผมสั้นเกือบๆ สกินเฮดใส่ชุดนักศึกษาก้มหน้าอยู่ โดยนั่งอยู่บนเบาะหลังในลักษณะนั่งหันหลังออก ผมอึ้งไปประมาณ 2-3 วินาที และรีบหันหน้ากลับเข้าวงติวทันที เพราะแถวนั้นมีแค่กลุ่มเพื่อนผมเท่านั้น คงไม่มีใครกล้านั่งมอเตอร์ไซค์ของคนอื่น ผมนั่งฟังติวไปเรื่อยและไม่กล้าหันหลังกลับ พวกเราติวถึงประมาณเกือบเที่ยงคืนเลยจะไปติวกันต่อที่หอเพื่อน ผมจึงกลับหอกับเพื่อนโดยซ้อนมอเตอร์ไซค์คันนั้นแหละครับ พอถึงหอเลยเล่าสิ่งที่เจอให้เพื่อนๆ ฟัง ทีนี้ไม่มีใครกล้ากลับหอตัวเองกันเลยครับ เลยนอนห้องเพื่อนอัดกันไป 5-6 คน แต่ก็นอนไม่หลับกัน เลยมีเพื่อนคนหนึ่งเสนอว่าพรุ่งนี้ให้ไปเล่นผีถ้วยแก้วกัน เพื่อจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
วันรุ่งขึ้นเลยไปเล่นผีเหรียญ (ผีเหรียญก็คือการเล่นแบบผีถ้วยแก้วแต่ใช้เหรียญแทนแก้ว) กันครับ ตอนประมาณสองทุ่ม โดยก่อนเล่นนั้นก็พากันไปไหว้ศาลเจ้าตรงหน้าคณะกันก่อน จากนั้นก็ไปที่บริเวณที่พวกเราติวหนังสือกันก่อนหน้านี้ ซึ่งระหว่างทางที่กำลังจะไปนั้นมีรุ่นพี่ 3-4 คนที่อยู่แถวนั้นพอดีก็เลยมาขอดูด้วย โดยตอนนั้นก็เล่นกันทั้งหมดประมาณ 5 หรือ 6 แต่ผมและกลุ่มรุ่นพี่ไม่ได้เล่นด้วย แต่ก็ยืนดูอยู่ห่างๆ
เมื่อเพื่อนๆ เริ่มเล่น เหรียญมันก็ขยับไปทีละคำๆ แต่มันไม่เป็นภาษาเลยครับ เพื่อนจึงเริ่มถามว่าชื่ออะไร ผู้ชายหรือผู้หญิง ก็จะเป็นคำมั่วๆ อย่างนั้นตลอด ผ่านไปสักสิบนาทีก็หยุดขยับ เลยทำการเชิญมาใหม่
พอเชิญเข้ามาใหม่อีกครั้ง คราวนี้เพื่อนผมคนหนึ่งที่เล่นในวงก็เริ่มถาม
“ใช่พี่คนที่มาเมื่อวานรึเปล่าคะ” ทันใดนั้นเหรียญก็ขยับไปที่ ‘ใช่’ จากนั้นก็ตามมาด้วยคำถามจากในวงมากมาย เช่น เสียชีวิตมาแล้วกี่ปี ชื่ออะไร ต้องการให้ช่วยทำบุญไหม เหรียญก็วิ่งไปตามคำถาม จนพี่เขาออกไปครับ
สรุปความได้ว่าพี่เขาชื่ออะไรสักอย่างผมจำไม่ได้ครับ ตอบเป็นชื่อจริง เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 32 ปี (ถ้านับรุ่นคือประมาณรุ่น 6-7 ครับ เพราะผมเป็นรุ่น 39) ไม่ต้องการอะไร แต่พี่เขาบอกแค่ว่ามีเรื่องอยากบอก (แต่พี่เขาเองก็ยังไม่ทันที่จะได้บอก พี่เขาก็ออกไปก่อน)
ที่พีคกว่านั้นคือกลุ่มรุ่นพี่ที่ยืนดูมาเล่าให้ฟังทีหลังว่า เห็นผู้ชายผมสั้นใส่ชุดนักศึกษายืนก้มหน้าอยู่หลังเพื่อนในวงตอนที่วิญญานแรกตอบไม่เป็นภาษา พวกผมเลยเดากันว่าวิญญาณแรกอาจเป็นผีเจ้าที่โบราณหรือผีที่ศาลที่ไปไหว้กันมา แต่เนื่องจากอาจไม่รู้ตัวอักษรเลยเป็นคำมั่วๆ แบบนั้น ส่วนพี่คนนั้นเขาคงมาไม่ทัน เลยยืนรอให้เรียกก็เป็นได้