Site icon Investwallet

เล่าเรื่องผีหลอน EP.27 เรื่องขนลุกระหว่างทางกลับบ้าน

เรื่องขนลุกระหว่างทางกลับบ้าน

โทรศัพท์มือสอง

เรื่องที่จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ Tell Ghost ฟังกันในวันนี้เป็นเรื่องราวของหนุ่มกรุงเทพฯ ที่เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของทางภาคเหนือ แล้วเขาก็ได้พบเจอกับเรื่องราวอันน่าขนลุกในระหว่างทางที่เขากำลังขี่มอเตอร์ไซค์กลับหอพักของตัวเองในตอนกลางดึก เรื่องราวจะเป็นยังไงบ้างน่าขนลุกแค่ไหนเราไปรับฟังพร้อมๆกันเลยค่ะ

เรื่องราวมันเกิดขึ้นเมื่อผมอยู่ตอนปี 2 เป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำแต่ผมก็จำไม่เคยลืม คืนวันนั้นในมหาวิทยาลัยมีงานขันโตก โดยงานขันโตกคือประเพณีอย่างหนึ่งของทางภาคเหนือ ซึ่งผมก็เข้าร่วมงานนี้ด้วย หลังจากเสร็จงานผมกับเพื่อนก็นัดกันไปกินเหล้าในร้านเหล้าแถวๆหน้ามอเราไปด้วยกันทั้งหมด 3 คน

ปกติแล้วผมไม่ได้เป็นคนชอบกินเหล้าให้เมาจนขาดสติแต่แค่กินให้สนุกๆก็พอแล้ว หลังจากกินเสร็จร้านก็ปิดตอนนั้นเวลาสักประมาณเที่ยงคืนกว่าๆเกือบตีหนึ่งแล้ว จากนั้นก็พากันไปดื่มที่ลานโล่งๆหน้าร้านนั้นแหละกะว่าจะดื่มกันอีกหน่อยเพราะอยากให้เหล้าหมด ไม่อยากแบกกลับ ซึ่งกว่าจะหมดก็ปาเข้าไปราวๆ ตี 2 ครึ่ง ก็แยกย้ายกันกลับ โดยเพื่อน 2 คนนั้นอยู่หอใน เวลานี้ประตูหอก็ปิดหมดแล้วพวกมันจึงจำเป็นต้องปีนเข้าด้านหลังหอ ไม่งั้นหากเข้าด้านหน้าอาจจะโดนลงโทษจากผู้คุมหอแน่นอนส่วนตัวผมนั้นต้องขี่มอเตอร์ไซค์กลับหอนอกคนเดียว ที่เลือกอยู่คนเดียวเพราะรักความเป็นส่วนตัวมาก
ทางที่ผมขับรถกลับนั้นถือได้ว่าเปลี่ยวพอสมควร ถึงแม้ว่าจะเป็นทางเข้ามหาวิทยาลัยแต่ก็ไม่ใช่ถนนสายหลัก ตอนดึกดื่นค่อนคืนแบบนี้ไม่มีรถคันไหนวิ่งผ่านเลย ผมจึงรีบบิดคันเร่งรถมอเตอร์ไซค์ให้เร็วขึ้นเพราะบรรยากาศมันดูวังเวงจนทำให้ผมเริ่มกลัว และด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์จึงอยากรีบกลับไปพักผ่อนนอนหลับ เพื่อตื่นมาเข้าเรียนประมาณช่วงบ่ายๆของอีกวัน

พอขับมาได้สักพักสายตาผมเหมือนเหลือบไปเห็นคนยืนอยู่ทางด้านซ้ายมือของผม ซึ่งผมกำลังขับออกนอกมอตอนนั้นผมคิดทันทีว่านั่นคงไม่ใช่คนแน่นอน และตาของผมก็ไม่น่าจะฝาดเพราะยังไม่ได้เมาเท่าไหร่ แต่ด้วยความสงสัยผมจึงตัดสินใจมองกระจกข้างให้ชัดเจนไปเลย โดยตอนที่ผมมอง ผมเห็นว่ามีคนยืนอยู่นิ่งๆตรงที่ผมผ่านมาจริงๆ ด้วยความกลัวที่มีก่อนหน้านี้ผมจึงรีบปิดคันเร่งแบบไม่คิดชีวิต จากที่กำลังจะกลับหอไปคนเดียวในคืนนั้นผมรีบขับกลับเข้ามหาวิทยาลัยไปรวมอยู่กับเพื่อนที่หอในดีกว่า

แต่ทางไปมหาวิทยาลัยผมมันก็เป็นหนทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยว ผมก็เริ่มบิดเต็มที่เพราะอยากถึงไวๆ แต่พอถึงจุดๆหนึ่งตรงทางโค้งอันตรายผมเห็นอีกแล้วครับ เหมือนเดิมเลยยืนอยู่ตรงทางซ้ายมือทางเหมือนเดิม

แต่คราวนี้แย่กว่าตอนเมื่อกี้นิดหน่อย เพราะเหมือนเขากำลังโบกมือเรียกผมอยู่ด้วย ตัวผมเองไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่ผมเห็นนั่นเป็นคนหรือไม่ใช่คนกันแน่ แต่ด้วยความสงสัย ความกลัว และความเมาที่รวมเข้าด้วยกัน มันทำให้ผมตัดสินใจว่า เอาวะ ลองวนกลับไปดูหน่อยแล้วกัน เผื่อว่าเป็นคนจะได้เข้าไปช่วยเหลือกันได้ แถมบางทีผมยังอาจมีเพื่อนร่วมทางด้วย ไม่รู้ว่าตอนนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิดกันแน่ แต่ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ ผมจึงเลี้ยงหัวรถกลับไปตรงนั้นอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ผมลดความเร็วลง เพื่อจะได้มองให้ชัดๆกันไปเลย ว่าคนหรือไม่ใช่กันแน่ แต่แปลกมากเลยครับ ผมจำได้ว่า ผมขับเลยมาแค่นิดหน่อยเอง แต่ทำไมผมวนมาหาแล้ว กลับไม่เจอใครเลย จะว่ามีคนมารับไปแล้วก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะตอนที่ผมขับจนถึงวนรถกลับมา ผมไม่เจอรถเลยแม้แต่คันเดียว

พอผมขับไปเรื่อยๆ เลยรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่แล้ว และความกลัวก็เริ่มเพิ่มขึ้น ตอนนั้นผมพยายามคิดเรื่องอื่นไว้ก่อน เพื่อไม่ให้หัวผมมันวนไปคิดถึงเรื่องที่ผมเจอ ผมจึงตัดสินใจวนรถอีกครั้ง คราวนี้ตั้งใจจะรีบขับกลับหอตนเอง พอขับมาเรื่อยๆเหมือนว่าจะใกล้ๆกับจุดที่ผมเจอก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้ผมเจออีกแล้วครับ ยืนข้างทางซ้ายมือ กำลังโบกมือให้ผม ทั้งๆที่ตอนผมวนมาเมื่อกี้ผมไม่เห็นอะไรเลย คราวนี้ในหัวผมนึกเรื่องอื่นไม่ได้แล้วครับ นึกอย่างเดียวว่า เอาแล้วไงกูเจอดีเข้าแล้วจนดิ ผมเลยยอมขับไปอีกเลนเลยเพราะตอนนั้นมหาวิทยาลัยไม่มีรถวิ่งแล้ว จึงคิดว่าขับตรงนี้คงไม่น่าจะมีรถสวนมาในเวลานี้

พอเข้าไปถึงหอเพื่อนผมก็ปีนเข้าไปด้านหลังห้องเพื่อนที่รู้จักกันแล้วเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนฟัง เพื่อนทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าทุกจุดที่ผมเล่าให้ฟังคือสถานที่ที่เคยเกิดอุบัติเหตุนักศึกษาเสียชีวิตทั้ง 2 จุดเลยและที่ผมเห็นทั้ง 2 จุดในคืนงานขันโตกจึงคิดว่าดวงวิญญาณทั้งสองน่าจะออกมาเพื่อขอส่วนบุญ

ดังนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นผมจึงเข้าไปตักบาตรหน้ามอ ซึ่งมีพระมาบิณฑบาตก่อนไปเรียน หลังจากวันนั้นถ้าไม่จำเป็นผมจะไม่ออกจากหอดึกๆอีกเลยเพราะไม่อยากเจอดวงวิญญาณใดๆอีกแล้ว

และนี่ก็เป็นประสบการณ์หลอนขนหัวลุกของลงนักศึกษาคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือก็อย่างที่เขาว่าน่ะค่ะการออกไปดึกๆในเวลากลางคืนก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เพราะคุณอาจจะได้เจอกับบางสิ่งบางอย่างที่คุณไม่เคยเจอมาก่อนก็เป็นได้

Exit mobile version