เชื่อว่าหลายๆคนที่รู้จักผีไทยคงรู้จักมาจากตำนาน คำบอกเล่าหรือตามบทภาพยนตร์ต่างๆ และหนึ่งในผีไทยที่มีชื่อเสียงแค่เอ่ยชื่อทุกคนก็น่าจะคิดกันออกในทันทีนั้นก็คือ “ผีปอบ”
ตำนานของผีปอบก็ ไม่ได้มีแค่เฉพาะที่ประเทศไทยเพียงที่เดียวเท่านั้น ในบางประเทศก็มีตำนานปอบเล่าขานอยู่เช่นกัน เพียงแต่เรื่องราวอาจจะแตกต่างกันไปบ้างเท่านั้น และคนไทยเราที่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องผีปอบของไทยมาบ้างแล้ว วันนี้ Tell Ghost จะมาเล่าเรื่องตำนานผีปอบของเมืองแบกแดด ประเทศอิรัก
ตำนานผีปอบแห่งเมืองแบกแดดนี้มีบันทึกเอาไว้ในบางตอนของนิยายเรื่อง พันหนึ่งราตรี (One Thousand and One Arabian Nights) โดยเรื่องมีอยู่ว่า
อับดุล ฮัสซัน ผู้เป็นบุตรชายของพ่อค้าผู้มั่งคั่งคนหนึ่งในเมืองแบกแดด เขาได้รับมอบหมายให้เตรียมตัวแต่งงานกับสาวน้อยรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิงที่ผู้เป็นพ่อของฮัสซันหมายหมั้นปั้นมือว่าอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ แต่เวลาเดียวกันนั้น ฮัสซันก็ได้ไปปลูกต้นรักกับหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า นัดดิลลา ซึ่งเป็นลูกสาวของปราชญ์คนหนึ่งในเมือง
ฮัสซันพอได้รู้ว่ากำลังจะถูกพ่อคลุมถุงชนให้แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ก็ร้อนรนเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขานั้นต้องการที่จะแต่งงานอยู่กินกับหญิงสาวที่ตัวเองรักไม่ใช่ผู้หญิงที่พ่อหาให้ เขาก็ได้ดิ้นรนสุดฤทธิ์เพื่อจะทำให้พ่อของเขานั้นเปลี่ยนใจ และในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จ เขาสามารถอ้อนวอนและชักแม่น้ำทั้งห้าจนพ่อของเขาใจอ่อนยอมให้เขาได้แต่งงานกับนัดดิลลา หญิงสาวอันเป็นที่รักของเขาจนได้
เมื่อทั้งสองได้ครองคู่อยู่กินกันฉันสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันนั้น ฮัสซัน ก็สังเกตเห็นว่า นัดดิลลา ภรรยาของเขานั้นไม่อยากจะกินอาหารร่วมโต๊ะกับเขาเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้น นางยังมีอาการแปลกๆด้วย นั่นก็คือ นัดดิลลาจะออกไปจากบ้านในเวลากลางคืนทุกคืน กว่าจะกลับบ้านอีกครั้งก็เป็นเช้าวันใหม่แล้ว
และด้วยความสงสัย คืนหนึ่ง ฮัสซันก็ตัดสินใจว่าจะต้องรู้ให้ได้ว่านัดดิลลาออกไปไหนตอนกลางค่ำกลางคืน เขาจึงได้เริ่มแผนการตามรอยเมียขึ้น และเมื่อถึงเวลาเข้านอนเขาจึงได้เข้านอนตามปกติและแกล้งหลับไป ฝ่ายนัดดิลลา เมื่อเห็นสามีหลับไปแล้ว ก็เดินเข้ามาใกล้ๆ เพื่อเช็คดูว่าผู้เป็นสามีนั้นหลับไปแล้วจริงๆรึเปล่า และเมื่อเห็นว่าเขานอนหลับไปแล้วเธอก็เลยแอบย่องออกจากบ้าน ฝ่ายฮัสซันที่แกล้งทำเป็นหลับนั้น เมื่อเห็นนัดดิลลาเดินออกจากบ้านก็รีบสะกดรอยตามโดยไม่ปล่อยให้เธอคลาดสายตาไปได้
นัดดิลลานั้นเดินตรงไปยังสุสานที่ฝังศพนอกตัวเมืองอย่างเร่งรีบ พอถึงสุสานก็เข้าร่วมวงขุดกินซากศพกับบรรดาปอบรายอื่นๆที่เดินทางมาถึงสุสานแห่งนั้นก่อนแล้ว ฮัสซันที่สะกดรอยตามมาเห็น นัดดิลลาภรรยาสุดที่รัก ทั้งกัดทึ้งเนื้อเน่าเปื่อยและแทะกระดูกดูดกินเลือดเนื้อของศพอย่างหิวกระหาย ฮัสซันก็ถึงกับเข่าอ่อน
จังหวะที่เขายืนแอบมองเธออยู่นั้น จู่ๆความรู้สึกที่มีให้กับนัดดิลลาก็เริ่มเปลี่ยนไปจากนั้นก็เดินทางกลับที่พักอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
วันต่อมาเมื่อถึงเวลาอาหารเย็น ฮัสซันเรียกให้นัดดิลลามากินอาหารเย็นด้วยกัน แต่เธอก็ปฎิเสธเหมือนทุกๆวัน คราวนี้ฮัสซันรู้แล้วว่าอะไรเป็นสาเหตุ เขาจึงรวบรวมความกล้าพูดแนวๆประณามเธอออกไปว่า ที่ไม่ยอมกินอาหารค่ำกับเขาก็เพราะว่าเธอเป็นผีปอบมากกว่ามั้ง แถมเขายังว่าต่อไปอีกด้วยว่า เขาเห็นเธอร่วมกินซากศพในสุสานกับบรรดาเพื่อนผีปอบคนอื่นๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฮัสซันพูดออกมานั้นเป็นสิ่งที่นัดดิลลาไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ แต่เมื่อเธอได้ยินสามีพูดดังนั้นเธอก็โกรธจนตัวสั่นและรีบกลับไปที่ห้องนอนทันทีโดยไม่พูดไม่จาอะไร
ตกดึกคืนนั้นฮัสซันเข้าห้องนอนตามปกติ แต่วันนี้เขาระวังตัวมากเพราะไม่รู้ว่าเมียที่รักนั้นจะจู่โจมเล่นงานเขาหรือไม่ เพราะตอนอาหารเย็นนั้นดูเหมือนเธอจะโกรธเขาไม่น้อยเลยทีเดียว และแล้วสิ่งที่เขาคาดไว้ก็เป็นจริงเมื่อนัดดิลลาหาโอกาสบุกเข้าเล่นงานฮัสซันด้วยการฉีกทึ้งคอหอยของเขาจนเลือดสาด จากนั้นก็เอาปากประกบรอยแผลแล้วดูดเลือดจากบาดแผลของเขาในทันที
ฮัสซันทั้งตกใจและตื่นตระหนก แต่ก็พอมีรวบรวมสติได้เลยคว้าไม้ที่เตรียมเอาไว้ตีกระหน่ำใส่จนนัดดิลลาตายคาที่
เมื่อนัดดิลลาตายไปแล้ว ร่างของเธอจึงถูกนำไปฝังยังสุสานประจำเมือง แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะหลังจากที่นัดดิลลาตายไปได้3วัน เธอกลับมาปรากฏตัวที่บ้านอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้เป็นนางผีปอบชั่วร้ายเหมือนเดิมเท่านั้น แต่เป็นนางผีดิบแวมไพร์สุดโหดที่กลับมาเล่นงานฮัสซันที่ทำให้เธอตาย แต่ฮัสซันรู้ทันเสียก่อน ก็สามารถหนีเอาตัวรอดมาได้
เช้าวันรุ่งขึ้นฮัสซันก็เลยรีบเดินทางไปยังสุสานที่ฝังศพของนัดดิลลา เขาเอาร่างของเธอไปทำการเผาจนมอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน จากนั้นก็นำกระดูกของเธอไปทิ้งที่แม่น้ำไทกริสเพื่อตัดตอนการเป็นแวมไพร์ทำให้ผีปอบนัดดิลลาหายไปไม่หวนกลับมาอีกเลย