Site icon Investwallet

เล่าเรื่องผีหลอน EP.38 โค้งนี้..เจอกันบ่อย

เล่าเรื่องผีหลอน EP.38 โค้งนี้..เจอกันบ่อย

เล่าเรื่องผีหลอน EP.38 โค้งนี้..เจอกันบ่อย

เวลาเดินทางตอนกลางค่ำกลางคืนและต้องผ่านทางโค้ง มีใครเคยเจอเรื่องราวแปลกๆบ้างไหมคะ ปกติทางที่เป็นทางโค้งก็มักจะมีอุบัติเหตุและมีคนตายบ่อยๆ ลองสังเกตดูสิคะ เวลาผ่านทางโค้งมืดๆในตอนกลางคืน เราจะรู้สึกเสียววาบ สายตาเจ้ากรรมก็เหมือนจะเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างแถวๆหางตาเสมอ เหมือนเรื่องที่เราจะนำมาเล่าให้ทุกคนฟังกันในวันนี้

สวัสดีครับ พอดีผมมีเรื่องมาเล่าเป็นเหตุการณ์ช่วงเดินทางกลับบ้าน เจอกับตัวเอง ปกติผมเป็นคนที่เชื่อเรื่องวิญญาณ เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด อาจเป็นเพราะว่าผมเข้าวัดทำบุญบ่อย แต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนกลัวผี ถ้าถามว่าเคยเจอไหม ตอบได้เลยครับว่าเคยเจอ ตอนเรียนอยู่ปีสองครับ
แต่เมื่อล่าสุดก็ได้เจอจังๆ เหมือนกันในวันกลับบ้านต่างจังหวัดช่วงเทศกาลปีใหม่ เรื่องมีอยู่ว่า

วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ผมได้เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดคนเดียว โดยผมออกจากกรุงเทพฯ ประมาณบ่ายสองโมง บ้านของผมและที่พักของผมในกรุงเทพอยู่ห่างกันระยะทางห้าร้อยกว่ากิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณแปดชั่วโมง ถึงบ้านก็ประมาณสี่ทุ่ม แต่เหตุการณ์มันมาเกิดก่อนถึงหมู่บ้านที่ผมอยู่ครับ

ช่วงประมาณเกือบสี่ทุ่ม ผมเดินทางมาถึงหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านผมเพียงสี่กิโลเมตร เมื่อมาถึงโค้งๆ หนึ่งซึ่งเป็นโค้งทางออกของหมู่บ้าน ลักษณะคือโค้งขวาแล้วก็โค้งซ้าย ไฟข้างทางไม่มีทำให้ค่อนข้างมืดมาก ทางด้านซ้ายมือจะเป็นต้นจามจุรีขนาดใหญ่มาก ถัดไปเป็นสระน้ำใหญ่ของหมู่บ้าน

นึกภาพตามนะครับ สองข้างทางไม่มีไฟ มืดไปหมด มีรถผมคันเดียวที่แล่นอยู่ในตอนนั้น บ้านคนแถวนั้นก็ปิดไฟนอนกันไปหมดแล้ว พอผมขับรถจะเข้าโค้ง หางตาซ้ายผมสังเกตเห็นอะไรแว้บๆ ตรงข้างรถฝั่งซ้าย ผมก็เลยตัดสินใจหันไปดู เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มือสองข้างของผมกำลังบังคับพวงมาลัยเข้าโค้งขวา

แล้วสิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมตกใจสุดขีด ผมเห็นร่างขนาดใหญ่สีดำ ความสูงประมาณ 180เซนติเมตร ที่คาดความสูงได้เพราะร่างนั้นสูงเกือบเท่าหลังคารถผมเลยครับ มันวิ่งอยู่ข้างรถ วิ่งแข่งกับรถ ไม่ได้วิ่งตามนะครับ มันวิ่งข้างๆ รถเลย ผมตะโกนร้อง เฮ้ย! ออกมาสุดเสียง ตัวผมชาไปหมด ขนลุกไปทั้งตัว ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูก แต่ยังดีที่มีสติคุมรถไม่ให้เลยโค้งได้

ตอนนั้นเข้าใจความรู้สึกของคนเห็นผีเลย ไม่มีหรอกครับที่จะมีสติท่องพุทโธหรือสวดมนต์บทไหนๆ สติหลุดไปหมดแล้วครับ แต่พอผมขับผ่านโค้งนั้นมาได้ ร่างนั้นก็หายไป พอได้สติกลับคืนก่อนจะเข้าโค้งอีกโค้ง ผมมองดูเข็มไมล์ปรากฏว่ามันอยู่ที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง! ผมรีบลดคันเร่งทันที ตอนนั้นตัวชา หน้าชาไปหมด

พอมาถึงบ้านผมพยายามทำตัวปกติ พ่อก็หาข้าวมาให้กิน ระหว่างนั่งกินข้าวผมก็ถามพ่อว่า

“ที่โค้งหมู่บ้านนั้นมีคนตายหรือเปล่าพ่อ หรือคนที่อยู่บ้านหลังนั้นก่อนถึงทางโค้งเขาตายหรือยัง”

“พ่อก็ไม่รู้ แกน่าจะยังอยู่นะ ทำไมเหรอ”

พ่อตอบ

ผมก็ได้แต่นิ่งเงียบไปไม่พูดถึงเรื่องนี้ต่อ หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ไปอาบน้ำ แล้วผมก็ขึ้นบ้านนอน

พอรุ่งเช้าผมเลยลองถามแม่ดู ผมคิดว่าบางแม่อาจจะรู้ พอผมไปถามแม่ก็บอกมาว่า

“โค้งนั้นคนเจอกันบ่อย บ้างก็เป็นตัวดำๆ ออกมาให้คนเห็น ออกมาไล่คนขับรถมอเตอร์ไซค์จนล้ม บ้างก็ออกมาเป็นแสงแว้บๆ คนในหมู่บ้านเราเวลาผ่านทางนั้นเจอประจำจนพากันกลัวไปหมด
ช่วงหลังสองทุ่มไปแล้วไม่ค่อยมีใครออกจากบ้านหรอก แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าตกลงแล้วมันคือตัวอะไรกันแน่ บางคนก็ว่าเป็นผีกระสือ บางคนก็ว่าเป็นของไม่ดีที่คนเอาไปปล่อยทิ้งลงสระ”

ซึ่งของไม่ดีในที่นี้หมายถึงพวกของขลัง คุณไสยต่างๆ ที่คนไม่รักษาไม่ปฏิบัติแล้วเอาไปโยนทิ้งครับ

ทุกวันนี้มันก็ยังค้างคาใจผมอยู่ว่าสิ่งที่ผมเจอในคืนนั้นมันคืออะไร ผมมีสติสัมปชัญญะทุกอย่าง ไม่ได้กลัวจนคิดไปเองเพราะผมเป็นคนที่ไม่กลัวผี แต่ถ้าเจอก็ตกใจ หลอนกันไป

ล่าสุดประมาณกลางเดือนมกราคม แม่โทรมาเล่าให้ฟังว่ามีคนในหมู่บ้านนั้นเจออีก เป็นลุงคนหนึ่งที่แกขับมอเตอร์ไซค์กลับจากนาตอนประมาณสองทุ่มกว่าๆ แกเห็นร่างใหญ่สีดำทะมึนยืนอยู่ข้างทาง ลุงก็เลยรีบขับไปตามคนในหมู่บ้านมาดู พอกลับมาดูอีกทีมันก็หายไปแล้ว

และตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ ทั้งผมและคนในหมู่บ้านแถวๆนั้นต่างก็ยังไม่ได้คำตอบว่าเงาสีดำใหญ่ๆที่เจอนั้นคืออะไร และมาจากไหน แต่ที่แน่ๆหลังสองทุ่มคนแถวนั้นจะไม่ผ่านเส้นทางนั้นกัน ตัวผมเองก็ตั้งธงในใจด้วยว่า หากวันไหนกลับบ้านถ้าเลย 2 ทุ่มไปแล้ว คงต้องหาที่พักข้างนอกก่อน รุ่งเช้าค่อยขับเข้าบ้านแล้วกัน ผมว่ามันดีกว่าถ้าผมจะขับไป ถึงแม้ว่าผมจะไม่กลัว แต่ถ้าตกใจและเร่งความเร็วรถ อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็ได้ ทางที่ดี ปลอดภัยเอาไว้ก่อนจะดีกว่า

Exit mobile version