ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2435 แอนดรูว์และแอ็บบี้ บอร์เดนสองสามีภรรยาถูกพบว่าถูกฆาตกรรมในบ้านของพวกเขาเองที่ฟอลล์ริเวอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ โดยถูกพบว่าทั้งคู่โดนขวานทุบจนตาย และผู้ต้องสงสัยก็คือ ลิซซี่ บอร์เดน วัย 32 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวผู้ตายเอง
คดีนี้เป็นที่น่าสนใจของผู้คนจำนวนมากแต่หลังการสืบสวนและพิจารณาคดี ลิซซี่ บอร์เดน ก็พ้นผิดในข้อหาฆาตกรรมหลังจากคดีนี้สิ้นสุดลิซซี่และพี่สาวก็ได้รับมรดกจำนวนมากจากพ่อและยังคงอาศัยอยู่ที่บ้านบอร์เดนตามเดิม แต่ด้วยความที่เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมพ่อและแม่เลี้ยงทำให้ชาวบ้านโดยรอบตราหน้าว่าเธอคือฆาตกร ไม่มีใครอยากพูดจาหรือสุงสิงกับเธอ และชื่อของลิซซี่เองก็ถูกตราหน้าอีกครั้งเพราะเธอถูกกล่าวหาว่าขโมยของในร้าน ตอนปี 1897 และต่อมาในปี 1905 เอ็มม่าผู้เป็นพี่สาวก็ได้ย้ายออกจากบ้านไปอย่างกะทันหันโดยทั้งสองไม่ติดต่อหรือพูดจากันอีกเลย ทำให้ชาวบ้านยิ่งสงสัยและคิดไปต่างๆนานาแต่ก็ไม่มีใครสามารถรู้ความจริงได้ ทั้งในเรื่องของคดีฆาตกรรมและเรื่องความขัดแย้งของ 2 พี่น้อง และหลังจากที่ ลิซซี่ บอร์เดน เสียชีวิตลงในบ้านก็มีความเชื่อกันต่อมาอีกว่า บ้านบอร์เดน คือบ้านที่มีอาถรรพ์
ปัจจุบันบ้านบอร์เดนกลายมาเป็นสถานที่ที่น่าสนใจของกลุ่มคนที่ชื่นชอบการล่าท้าผี และผู้คนที่ชอบสัมผัสกับบรรยากาศของอาถรรพ์ต่างๆ และจอห์น ก็เป็นหนึ่งในไกด์ที่ทำหน้าที่พานักท่องเที่ยวเที่ยวชมบ้านตระกูลบอร์เดน ซึ่งแรกๆจอห์นเองก็ไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางหรืออาถรรพ์ใดๆเขาจึงไม่รู้สึกกลัวหรือกังวลอะไร
แต่หลังจากนั้นไม่นานทุกอย่างก็เปลี่ยนไป หลังจากที่จอห์นพบเจอกับบางสิ่งบางอย่างด้วยตัวเขาเอง เริ่มจาก
ตอนที่พาแขกเที่ยวชมบ้าน มีแขกบอกกับจอห์นว่า พวกเขาได้ยินเสียงหัวเราะและเล่นกันในตอนกลางคืน บางครั้งสิ่งของต่างๆก็ขยับไปมา และมีครั้งหนึ่งที่จอห์นพบว่ามีของเล่นกระจายอยู่ทั่วห้องทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่
นอกจากนี้ยังมีรูปภาพที่จู่ๆก็ตกลงมา หรือเลื่อนไปมาเอง รวมไปถึงตู้เสื้อผ้าที่เปิดออกเองได้ ซึ่งจอห์นยังได้บอกอีกว่า ในวันครบรอบการตายของสองสามีภรรยาบอร์เดน เขาและไกด์นำเที่ยวอีก 2 คน ก็รู้สึกปวดแปลบๆที่ตาซ้ายขึ้นมาอย่างฉับพลันและเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่สองสามีภรรยาบอร์เดนถูกทุบตีจนถึงแก่ความตาย
อย่างไรก็ตามเรื่องที่น่าตกใจที่สุด คือ เรื่องที่จอห์นเล่าว่าไกด์อีกคนในกลุ่มของเขาเคยบอกกับเขาว่า มีครั้งหนึ่งตอนที่พวกเขากำลังพาแขกทัวร์บ้าน โดยปกติแล้วก่อนทำการพาทัวร์ ไกด์จะบอกให้แขกปิดมือถือก่อนทุกครั้ง แต่ครั้งนั้นจู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของแขกคนหนึ่งก็ดังขึ้น ซึ่งเจ้าของโทรศัพท์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและบอกว่า “แม่ของฉันเอง” ไกด์นำเที่ยวคนนั้นก็เลยถามว่าต้องการออกไปข้างนอกก่อนเพื่อจะรับสายไหม แขกคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า แม่ของเธอเสียไปตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว ซึ่งจังหวะนั้นทุกคนในทัวร์ต่างก็มองหน้ากันเลิ่กลัก….