บ้านแต่ละหลังที่เราไม่ได้ปลูกสร้างขึ้นเอง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า บ้านหลังนั้นผ่านเหตุการณ์อะไรมาบ้าง ยิ่งบ้านบางหลังที่ยังสวยงาม กว้างขวางแต่ราคาแสนถูก บางคนอาจคิดว่ากำไรมากถ้าได้มันมา แต่ถ้าคุณรู้ก่อนแล้วว่าสิ่งที่ได้แถมมากับบ้านหลังนั้นคือเหตุการณ์สุดหลอนคุณอาจจะไม่อยากซื้อมันอีกเลยก็ได้ ดังเรื่องที่เราจะนำมาเล่าให้ทุกคนฟังในวันนี้ มันเป็นเรื่องจริงจากทางบ้าน เจ้าของเรื่องชื่อคุณเลิฟ โดยคุณเลิฟได้เล่าว่า
ตอนนั้นเรายังอยู่ ม.1 ที่บ้านก็ตกลงกันว่าจะซื้อบ้านหลังหนึ่ง แต่อยู่รวมกันหลายๆคน ซึ่งจะมีเรา แม่ น้าชาย ป้า และยายซึ่งโชคดีตอนนั้นได้บ้านราคาถูกอยู่ที่ใกล้วัด เป็นบ้านชั้นเดียวขนาดพอดี มีที่จอดรถได้หนึ่งคัน บ้านราคาถูกมาก ทำให้พวกเราเหลือเงินอยู่นิดหน่อย เลยเอาไปซื้อรถเก๋งมือสองมาไว้เพื่อขับพายายไปโรงพยาบาล
ตอนที่พวกเราย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ ชาวบ้านแถวๆนั้นก็ซุบซิบนินทา แต่แม่ก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจเพราะเค้าอาจจะเห็นเราเป็นคนแปลกหน้าเท่านั้น คืนแรกที่เข้าอยู่เราก็ได้ยินเสียงหมามันมาหอนที่หน้าบ้าน มันหอนนานมาก จนน้าชายต้องเอาก้อนหินปาไล่มันไป ยายก็เลยบอกว่าพรุ่งนี้ต้องไหว้เจ้าที่เจ้าทางสักหน่อยแล้ว พอรุ่งเช้ายายก็จัดเตรียมข้าวของเพื่อไหว้เจ้าที่
หลังจากนั้นมาเหตุการณ์ก็ปกติ แต่ไม่นานเรื่องราวประหลาดก็เกิดขึ้น เมื่อยายโดนผีอำบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน เวลายายนอน ยายก็จะโดนผีอำ จนวันหนึ่งยายก็รู้สึกว่ามันหนักเกินไป ยายก็อาละวาดว่าจะไม่อยู่บ้านนี้แล้ว ป้าก็เลยต้องมานอนเป็นเพื่อน แถมยายยังบอกว่ามีผู้ชายมาบีบคอแก ส่วนน้าชายก็เริ่มแปลกไป จากคนที่เลิกกินเหล้ามานานก็หันกลับมากินเหล้าอีกแถมกินหนักกว่าเดิม แล้วก็ทำท่าทางเหมือนคุยกับใครไม่รู้อยู่บ่อยๆ ตอนนั้นเราก็งงและแอบกลัวๆนิดๆแต่ แม่ก็บอกว่าอย่าไปสนใจ ตามประสาคนเมาตามประสาคนแก่
แต่สิ่งแปลกๆที่เกิดขึ้นกับเราคือ เราจะเห็นก้อนสำลีเล็กๆ ตกอยู่ตามพื้นบ้านเป็นประจำ พอเห็นเราก็ได้แต่เก็บทิ้งไป และไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร
อยู่มาวันหนึ่งเราเกิดปวดฉี่กลางดึก ก็เลยออกมาเข้าห้องน้ำ โดยห้องน้ำจะอยู่หลังบ้านไม่ได้อยู่ในตัวบ้าน เราต้องเดินออกประตูหลังบ้านแล้วเดินต่อไปอีกหน่อยเพื่อเข้าห้องน้ำ พอเดินผ่านไป เราก็ได้ยินเสียงกุกกักที่รถของน้าชาย ตอนแรกคิดว่าเป็นขโมยมาขโมยของในรถแน่ๆ เราก็เลยแอบย่องเข้าไปดู เห็นฝากระโปรงท้ายรถเปิดอยู่ แล้วมีมือโผล่ออกมา พยายามจะเปิดฝากระโปรงรถ แต่เปิดไม่ได้ ก็เลยลุกพรึ่บขึ้นมา ที่แท้ก็เป็นน้าชายของเรานั่นเองตกใจหมด
ตอนแรกเราก็แปลกใจและสงสัยมากว่าน้าจะมาทำอะไรตอนนี้ และด้วยความอยากรู้อยากเห็นเราก็รีบไปฉี่แต่ก็ไม่กลับเข้าไปนอน แต่เรายืนรอแอบดูต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน เราแอบมองอยู่น่าจะประมาณ 10-15 นาที แล้วเราก็ได้ยินเสียงไขกุญแจเปิดกระโปรงท้ายรถ แล้วเห็นน้าชายเอาตัวเองยัดเข้าไปอยู่ในนั้น แล้วปิดฝาลง แต่ก็แง้มช่องเล็กๆเอาไว้หายใจนิดหน่อย
ตอนนั้นเราก็สงสัยหนักมาก ว่าน้าชายจะทำแบบนั้นทำไมตอนนั้นเรารออยู่อีกสักประมาณ 10 นาทีแต่ก็ไม่เห็นว่าน้าจะออกมาก็เลยตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องไป พอกลับเข้าห้อง เราก็แอบแง้มหน้าต่างดูก็ไม่เห็นว่าน้าจะออกมา เราคิดวนไปวนมาทั้งคืน จะเดินไปถามน้าก็ไม่กล้า แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเล่าให้ทุกคนในบ้านฟังในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เล่าไปแล้วเราก็ได้มารู้ว่าทุกคนรู้กันอยู่แล้วแต่ไม่มีใครพูด แต่หลังจากนั้นไม่นานยายก็เรียกน้าชายมาถาม น้าชายก็บอกว่า “ชอบนอน เพราะว่ามันเงียบ และมืดดี” แต่พอห้ามไม่ให้ทำอีกแกก็อาละวาดเหมือนคนบ้า คนในบ้านเลยปล่อยไปคิดว่าแกอยากนอนตรงไหนก็ปล่อยให้แกนอนไปเถอะ
วันหนึ่งเราเลิกเรียนและกลับมาบ้านตามปกติ วันนั้นเราไม่เห็นใครอยู่บ้านเลย ซึ่งปกติแล้วไม่เคยเป็นแบบนี้อย่างน้อยๆ ยายก็น่าจะอยู่ เพราะยายแทบไม่ได้ออกไปไหน ส่วนป้าที่อยู่กับยายก็อาจจะมีบ้างที่ออกไปซื้อของแต่ก็ไม่น่าไปนาน วันนั้นเรานั่งรออยู่สักพักหนึ่ง จำเวลาแน่นอนไม่ได้ว่ากี่นาทีแล้วก็ไม่เห็นมีใครกลับมา เราก็เริ่มตกใจจึงลองเสี่ยงเดินไปถามร้านขายของชำใกล้ๆว่าเห็นครอบครัวของเราไหม ป้าที่ร้านขายของจึงบอกว่าน้าชายของเราเสีย และทุกคนก็น่าจะอยู่ที่วัดกันหมด เราได้ยินดังนั้นก็ตกใจมากและรีบวิ่งไปที่วัดทันที มาถึงวัดก็เจอแม่และคนอื่นๆอยู่ด้วยกันและแม่ก็บอกว่าน้าชายของเราแขวนคอตายอยู่ในห้องของแกเอง
แต่สิ่งที่ทำให้เราประหลาดใจมากคือ ที่จมูก และหูของศพน้าชายมีสำลีก้อนเล็กๆอุดอยู่ และเราก็จำได้ว่าสำลีนั้นมันเหมือนสำลีที่เราเจอในบ้านทุกๆเช้า แต่เราก็ไม่ได้บอกใครในเรื่องที่เราเจอเหมือนเดิม เพราะคิดว่าแค่นี้ทุกคนก็เศร้าแล้ว และถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้บอกคนในบ้านเรื่องสำลีแปลกๆที่เราเจอ แต่เราก็แอบไปถามเพื่อน เพื่อนมันก็ไม่รู้ แต่มันบอกว่าให้เราลองไปถามป้าที่ร้านขายของชำข้างบ้านเราดูสิ ตอนแรกเราก็ไม่กล้าถาม แต่พอผ่านงานศพน้าชายไปเราก็เลยแกล้งไปซื้อของและเลียบๆเคียงๆถามป้าแกดู
ป้าแกก็เล่าให้ฟังว่า บ้านที่พวกเรามาอยู่ ก่อนหน้านี้เคยมีคนมาอยู่ก่อนเราประมาณ 3 ครอบครัว แต่ทุกๆครอบครัวที่มาอยู่ก็จะเจอเรื่องแปลกๆ ตอนแรกป้าแกก็ไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ครอบครัวที่ 2 ที่เข้ามาอยู่ แกค่อนข้างที่จะคุยเก่งก็มาคุยเล่นกับป้า ป้าเลยรู้ว่าครอบครัวที่ 2 นั้นก็เจอเรื่องราวแปลกๆหลายอย่าง แต่อยู่ได้เพียงแค่เดือนกว่าๆ สามีแกก็แขวนคอตายในบ้านโดยไม่รู้สาเหตุ ป้าครอบครัวที่ 2 ทำใจไม่ได้ เลยพาลูกๆย้ายกลับไปอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัด
หลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์ ครอบครัวที่ 3 ก็ย้ายเข้ามาอยู่ แต่ครอบครัวนี้มาอยู่กันได้ไม่ถึงเดือน ผู้เป็นพ่อก็ฆ่าลูกและเมียตาย หลังจากนั้นก็ฆ่าตัวตายในบ้าน เจ้าของบ้านก็เลยติดป้ายประกาศว่าขายในราคาถูกๆ คนที่เคยรู้เรื่องเหล่านี้ก็ไม่มีใครกล้ามาซื้อกัน ผ่านมาประมาณครึ่งปีก็ยังไม่มีใครมาซื้อ เจ้าของบ้านแกก็เลยลดราคาลงมาถูกมากๆและหลังจากนั้นไม่นานครอบครัวของเราก็ย้ายเข้ามาอยู่กัน
แรกๆคนอื่นๆในหมู่บ้านเห็นครอบครัวของเราย้ายเข้ามาอยู่ก็พูดกันถึงเรื่องไม่ดีต่างๆที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวก่อนหน้านี้ และกลัวกันว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอีก และสุดท้ายก็เป็นจริงจนได้ หลังจากน้าชายตายยายก็ร้องไห้ทุกวัน จนแม่ตัดสินใจขายบ้านพร้อมรถในราคาถูกแสนถูกอีกครั้ง และหลังจากที่พวกเราย้ายออกเราก็มีบ้างที่ผ่านบ้านหลังนั้นเพื่อมาหาเพื่อนเราก็แอบมองเข้าไปในบ้านหลังนั้น ที่ตอนนี้กลายเป็นบ้านร้างไม่มีใครอยู่และไม่มีใครกล้ามาซื้อ ภายนอกมันก็ดูเป็นบ้านธรรมดา แต่สิ่งที่อยู่ข้างในไม่มีใครรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
