บ้านพักหลายแห่ง มีประวัติของคนที่เสียชีวิตในบ้านหลังนั้นย่อมแตกต่างกัน บางหลังเสียชีวิตจากการถูกฆาตรกรรม และบางหลังมีคนฆ่าตัวตาย กลายเป็นศพเฝ้าบ้าน ซึ่งเรื่องของวิญญาณเหล่านี้ หากใครเชื่อเรื่องของอาถรรพ์ วิญญาณร้ายก็อาจจะขนลุกกับเรื่องราวที่เราจะนำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคุณไก่ ที่เธอได้ย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่เคยมีคนแขวนคอตายมาก่อน จากนั้นก็เจอเรื่องราวหลอนๆต่าง ๆ
โดยคุณไก่ได้เล่าว่า
สวัสดีค่ะ เรา ชื่อไก่ เรามีประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง มาฝาก เราเป็นคนภาคอิสาน เรียนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางในตัวเมือง พอเรียนจบเราได้มีโอกาสมาทำงานที่ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งที่จังหวัดสมุทรปราการ โรงเรียนมีหอพักครูอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่หลังโรงเรียน หมู่บ้าน นี้ใหญ่มากมีซอยเยอะมาก ซึ่งหอพักครูจะอยู่ระหว่างซอยที่ 17-19 หอพักมีสองชั้น เราได้ห้องข้างล่างห้องที่สอง หลังห้องเราเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่อาศัย ต้นไม้ขึ้นรกมาก หญ้าวัชพืชขึ้นปกคลุมบริเวณบ้าน และที่สำคัญร้านขายของชำอยู่ไกลมาก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ซอย 3 เวลาไปชื้อของก็ยืมจักรยานพี่ที่หอ
เรา ชอบปั่นจักรยานออกมาชื้อของเวลา 20.00-21.00 เป็นประจำ วันแรกที่เราปั่นจักรยานเพื่อที่จะไปชื้อของเราปั่นไปซอยที่ 19 ปั่นไปไม่ถึงครึ่งซอยก็มีสุนัขไล่กัดอย่างเอาเป็นเอาตาย และก็เห่า มันน่ากลัวมาก วันต่อมาเราก็ปั่นจักรยานไปชื้อของอีกแต่ทีนี้เราเปลี่ยนซอย เป็นซอยที่ 18 ปรากฏว่าไม่ต่างจากซอยที่ 19 เลย วันต่อมาเราก็ปั่นจักรยานไปชื้อของอีกเราปั่นซอยที่ 17 ในขณะที่ปั่นไปก็คิดว่าจะเป็นเหมือนกับ 2 ซอยที่ผ่านมาไหม ปรากฏว่าทุกอย่างเงียบกริบ ไม่มีสุนัขออกมาไล่กัดสักตัว แม่แต่เสียงเห่าก็ไม่มี
บรรยากาศสองข้างทางเป็นเท้าว์เฮ้าท์สองชั้น ที่ดูรกร้าง ต้นไม้ขึ้นหนา ใบไม้หล่นในบริเวณเท้าว์เฮ้าท์เกลื่อน มีคนอาศัยอยู่แค่ไม่กี่หลังเท่านั้น ทำให้ดูวังเวงมาก แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่าเรารู้แล้วว่าซอยนี้ปลอดภัย หลังจากนั้นมาเราก็ปั่นจักรยานผ่านที่ซอยนี้ประจำ
วันหนึ่งขณะที่เรากำลังนั่งเล่นเกมส์อย่างเมามันส์ เสียง msn ก็ดังขึ้น พอเปิดดูก็พบว่าเพื่อนเราทักมา บอกว่าให้เปิดกล้องคุยกัน เราก็เลยหยุดเล่นเกมส์แล้วเปิดกล้องคุยกับเพื่อน ตอนนั้นน่าจะเย็นมากล่ะ เราเปิดไฟในห้องไว้ ไฟตรงอื่นยังไม่ได้เปิด (เราลืมบอกไปเรานั่งเล่นคอมที่โต๊ะ หันหน้าไปที่บานเกล็ด ข้างหลังเราเป็นเตียง เราเปิดประตูหลังห้องและประตูห้องน้ำไว้ ประตูทางเข้าจะตรงกับประตูห้องน้ำพอดี ) ฝั่งเพื่อนมีกันอยู่ 5-7 คน เพื่อนถามว่าอยู่กับใคร เราบอกว่าคนเดียว พร้อมกับหมุนกล้องให้เพื่อนดู คุยกันได้สักพักเราเลยบอกเพื่อนว่าจะไปเข้าห้องน้ำ พูดเสร็จเราก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ
พอกลับมาปรากฏว่าเพื่อนปิดกล้องไป แล้ว เราเลยถามว่าปิดทำไม เพื่อนเลยถามว่าอยู่กับใคร เราบอกว่าอยู่คนเดียว เพื่อนก็ถามย้ำอีกว่าอยู่กับใคร เราก็ยืนยันว่าอยู่คนเดียวจริงๆ และเพื่อนก็บอกว่าตอนที่เราไปเข้าห้องน้ำ กล้องค้างตรงหน้าห้องน้ำแล้วเห็นเรากำลังจะไปเข้าห้องน้ำ และหน้าห้องน้ำนั้นก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผมยาวใส่เสื้อสีขาวและกางเกงสีเทา เราไม่เชื่อที่เพื่อนพูด เพื่อนก็เลยส่งรูปมาเป็นหลักฐานเพราะมันแคปเอาไว้ ซึ่งเราก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่ามันคืออะไร ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไร ตอนแรกยังคิดอยู่เลยว่าเพื่อนน่าจะอำเล่น
พอตื่นเช้ามาเราไปกินข้าวที่ร้านป้า ข้างๆหอ ด้วยความที่อยากรู้เลยถามเอารูปนั้นให้ป้าแกดู ป้าดูได้สักพักก็ส่งให้คนในร้านข้าวคนอื่นๆดูบ้าง ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นคนภาคอิสานมาทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการพร้อมกับแฟน เธอทำงานก่อสร้างสักแห่งในจังหวัดนี้ เธอพักที่เท้าว์เฮ้าท์ซอย 17 อยู่กันหลายคน แต่แฟนเธอเป็นคนเจ้าชู้ มีเมียน้อยและไม่ค่อยกลับมาหาเธอ เธอทำได้แค่รอและเธอก็ท้อง
พอวันหนึ่งแฟนเธอกลับมา เธอบอกเขาว่าท้อง แต่แฟนของเธอบอกให้เธอไปทำแท้ง เธอไม่ยอม แฟนของเธอก็เดินออกจากบ้านไปและไม่กลับมาอีกเลย มันทำให้เธอคิดสั้น วันต่อมาเพื่อนๆของเธอออกไปทำงานกันหมดเหลือเธอคนเดียว เธอบอกว่าไม่สบายอยากพัก เพื่อนๆก็ไม่เอะใจอะไร พอเพื่อนออกไปได้สักระยะ เธอก็ผูกคอตายในเท้าว์เฮ้าท์นั้น กว่าเพื่อนจะรู้ก็ตอนที่กลับจากทำงานแล้ว เพื่อนของเธอเลยนำศพเธอกลับไปยังบ้านเกิดของเธอ
หลังจากที่เธอตายไปได้ไม่นาน เธอเฮี้ยนมาก หลอกคนที่อยู่ในละแวกนั่นบ่อยมากจนคนในซอยเริ่มทยอยย้ายไปทีละหลัง จนเหลือแค่ไม่กี่หลัง ป้าบอกว่าเธอเพิ่งหยุดเฮี้ยนไป 3 เดือนก่อนหน้าที่เราจะมาอยู่ ฟังจบเราก็ไม่ได้คิดอะไร และกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานวันนั้นเป็นวันหยุดยาว ครูที่หอกลับบ้านกันหมด เหลือแค่เราคนเดียว ตอนที่เราเล่นเกมส์อยู่น่าจะห้าโมงเย็น เราได้ยินเสียงคนทุบประตูห้องน้ำ ปัง ปัง ปัง เสียงดังมาก มันดังมาจากห้องเราเอง เราได้ยินเราก็สะดุ้ง ตกใจมาก แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจอะไร
หลายวันผ่านไปตอนที่เรานอนอยู่ เราได้ยินเสียงคนเดินในห้อง เดินไปมา เราก็ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วนอนต่อ และก่อนนอนคืนหนึ่งเราพูดออกไปว่า ถ้ามีจริง แน่จริงคืนนี้บอกหวยด้วยเข้าฝันก็ได้ แล้วอยากได้อะไรก็จะให้ พูดออกมาด้วยความโมโหไม่ทันได้คิดอะไร แล้วเราก็หลับไป
ตอนดึกคืนนั้นเราก็ฝันจริงๆค่ะ ฝันว่าเห็น ตัวเองนอนอยู่บนเตียงแล้วได้ยินเสียงกร็อกแกร็ก ที่บ้านเกร็ดประตูหลังห้อง แล้วเราก็หันไปดู เห็นเป็นมือเหี่ยวๆ มีเล็บยาวมาก กำลังเอามือเข้ามาในบานเกร็ด ด้วยความที่ตกใจคิดว่าเป็นโจร เลยลุกจากที่นอนแล้วไปหยิบมีดมาฟันที่มือนั้น จากนั้นเราได้ยินเสียงกรี๊ดร้องสักพักเสียงนั้นก็หายไป แล้วได้ยินเสียงคนทุบประตูอยู่หน้าห้องแล้วเสียงก็เงียบ สักพักเห็นเป็นเงาดำๆ รูปร่างผู้หญิงผมยาวยืนอยู่ปลายเตียงแล้วพูดว่า อยากได้หวยไม่ใช่หรอ เราตอบว่าใช่ ผู้หญิงคนนั้นเลยให้หวยมาสองตัว พอเราตื่นมาตอนเช้าโทรให้น้องชื้อให้ เราก็ชื้อนะ 5 บาท เราไม่ชอบเล่นหวย พอวันหวยออกปรากฏว่าถูก เราโทรไปหาน้อง น้องบอกว่าลืมไม่ได้ชื้อให้ เราก็ไม่ได้อะไร หลังจากนั้นเราก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย
ช่วงนั้นเราไม่ อยากกลับบ้านขนาดมีวันหยุดยาวเรายังไม่กลับ พอไปทำงานพี่ที่โรงเรียนทักว่า ทำไมช่วงนี้ดูคล่ำๆ หน้าหมองจัง โดนของหรือป่าว เราก็บอกว่าไม่หรอกมั้ง ช่วงนั่นเราไม่สบายบ่อยมาก เป็นๆ หายๆ มีอยู่วันหนึ่งอยู่ๆเราอยากกลับบ้านขึ้นมาสะงั้น เราเดินไปหาพี่บอกว่าอยากกลับบ้าน พี่เลยบอกว่ากลับด้วยกันไหม พี่จะกลับพอดี พรุ่งนี้ไปพร้อมกัน เราก็ตอบตกลงเพราะมีเพื่อนกลับ
พอ ไปถึงบ้านยายถามว่าทำไมผอมจัง น่าดูคล้ำมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปวัด ตื่นเช้ามายายพาไปวัด วัดนี้เป็นวัดป่าและเป็นที่นับถือของคนในพื้นที่ พอเดินเข้าไปในศาลา พระพูดว่าโยมพาใครมาด้วย เราก็หันหลังกลับไปมองก็ไม่มีใคร พระบอกว่าโยมนั้นแหละ มีคนตามมาด้วย เราเลยลองเชิงพระรูปนั้นว่าที่ตามมาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ท่านตอบว่าเป็นผู้หญิง เราถามว่าแล้วตามมาจากไหน ท่านตอบว่าตามมาจากที่ทำงาน เราถามว่าแล้วเขาต้องการอะไร ท่านตอบว่าแล้วโยมพูดอะไรกับเขาไว้ล่ะ เราก็นั่งคิดสักพักก็พูดขึ้นมาว่า อยากได้อะไรก็จะให้ ท่านเลยบอกว่านั้นแหละที่เจาตามโยมมา
เราถามว่า แล้วเขาต้องการอะไรท่านเลยบอกว่าเขาต้องการชีวิตของโยม ดีนะที่ดวงยังไม่ถึงคาด ป่วยบ่อยใช่ไหมเราตอบใช่ค่ะ ท่านบอกว่าไม่แปลกหรอกก็เขาไปไหนมาไหนกับโยมตลอด ยายก็ถามพระว่าพอมีทางแก้ไหม ท่านเลยตอบว่ามี แต่ต้องทำภายในสามวันไม่งั้นตาย ไปรดน้ำมนต์ 7 วัดภายในวันเดียวต้องได้ 7 วัด และต้องทำภายใน 3 วันนี้เท่านั้นแล้วเขาก็จะไม่มากวนอีก
เรากับยายก็กลับบ้าน พอตื่นเช้ามาตากะยายพาไปรดน้ำมนต์ 7 วัดหลังจากนั้นมาเราก็ไม่เคยเจอเธออีกเลย เรากลับไปทำงานและอยู่ที่ห้องนั้นต่อจนครบ 6 เดือนแล้วเราก็ย้ายไปทำงานกับเพื่อนที่ กทม และไม่คิดจะกลับมาที่นี่อีกเลย
