อยากให้ยอดวิวเพิ่มใคร ๆ ก็บอกให้เขียน CONTENT คุณภาพดี แล้ว CONTENT คุณภาพดีเป็นยังไง? ถ้าทำแล้วจะมีวิวเพิ่มขึ้นจริงรึเปล่า? เรามีวิธีเด็ด ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเขียน CONTENT คุณภาพสูงที่จะช่วยติดปีก SEO ให้เป็นสองเท่า
โดยเคล็ดลับที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้ จะมี Gimmick สำคัญ ๆ เพียง 6 ข้อเท่านั้น และเมื่อคุณอ่านจบ คุณจะหมดกังวลกับปัญหาเขียน CONTENT แล้วไม่มีคนเข้าชมเว็บไซต์อีกต่อไป แถมยังช่วยให้ยอดวิวในเว็บไซต์ของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกด้วย
เขียนบทความออนไลน์ คือ
เขียนบทความออนไลน์ เป็นส่วนหนึ่งของการเขียนประเภทข้อเท็จจริง โดยใช้เทคนิคการเขียนเพื่อให้เข้าใจง่ายทั้งผู้เข้าชมและ Search Engines
แถมการเขียนบทความออนไลน์ที่ดีนะคะ เราไม่ควรสับสนว่าการเขียนบทความออนไลน์ก็คงคล้าย ๆ กับการเขียนบทความลงสื่อกระดาษ เช่น หนังสือพิมพ์หรือหนังสือทั่วไป เนื่องจากผู้เข้าชมเว็บไซต์จะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไป ยิ่งหากเรารู้ลักษณะเฉพาะนี้ได้ก็เป็นประโยชน์ต่อการทำ SEO ค่ะ
ผู้ชมเว็บ | ผู้ชมสื่อกระดาษ | |
---|---|---|
วัตถุประสงค์ | อยากรู้คำตอบทันที | ต้องการทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งขึ้นอย่างช้า ๆ |
ใช้เวลา | วินาทีถึงนาที | หลายสิบนาทีถึงหลายชั่วโมง |
ค่าใช้จ่าย | ฟรี | มีค่าใช้จ่าย |
จากตารางที่ใช้เปรียบเทียบนี้ จะสังเกตเห็นรูปแบบการเขียน CONTENT ในเว็บไซต์ 3 ข้อที่ควรให้ความสำคัญ ได้แก่
- เขียนข้อสรุปในทันที เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้ว่า เมื่ออ่าน CONTENT นั้น ๆ จบแล้วเขาจะได้รับอะไร
- มีจุดสังเกตที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ ถึงใจความสำคัญของ CONTENT
- มีความดึงดูดและโน้มน้าวใจผู้อ่าน
เน้นเขียน CONTENT ให้ทั้งผู้ชมและ Search Engines เข้าใจได้ง่าย
เรื่องนี้นับได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ซึ่งถ้าเราละเลยแล้วแทนที่เว็บไซต์เราจะก้าวกระโดด อาจจะจมสนิทแพ้คนอื่น ๆ ที่ทำตามอย่างเคร่งครัดได้
การวางโครงสร้างของบทความและเขียน CONTENT ให้เข้าใจง่าย จะช่วยให้บทความและเว็บไซต์ของคุณมีผู้เข้าชมมากยิ่งขึ้น โดยวิธีเขียน CONTENT ให้ทั้งผู้เข้าชมและ Search Engines เข้าใจได้ง่าย ๆ นั้น เราได้เขียนบทความแนะนำไว้แล้วโดยสามารถคลิกเข้าอ่านได้ที่โพสต์ด้านล่างนี้
เพิ่มประสิทธิภาพของหัวข้อ
การเขียน CONTENT ที่ถูกหลัก SEO ละเลยไม่ได้เลยกับการทำหัวข้อให้ดึงดูด โดยเริ่มจาก
ใส่ Keyword ลงในหัวข้อ
ยิ่งหัวข้อของเรามี Keyword ที่ดีจะทำให้ Search Engines เข้าใจง่ายและสามารถเก็บข้อมูลไปได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในหัวข้อหลักของบทความหรือ H1 นั้นควร ขยับ Keyword มาไว้ช่วงต้น ๆ ของหัวข้อ เพื่อกันไม่ให้ Google ตัดออกไปหากหัวข้อบทความของเรายาวค่ะ
ตั้งชื่อหัวข้อที่อธิบายเนื้อหาของ CONTENT ให้กระชับและดึงดูด
ชื่อหัวข้อเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ผู้อ่านเกิดความสนใจและคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของเราแถมยังช่วยให้ Search Engines เข้าใจเนื้อหาของเว็บส่งผลให้สามารถติดอันดับในการค้นหาของ Google ได้ง่าย
ดังนั้นเราควรเขียนหัวข้อที่กระชับ ดึงดูดและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าชมได้เป็นอย่างดี
โดยเทคนิคการตั้งชื่อบทความให้ดึงดูด จะประกอบไปด้วย การใส่คำพูดเร้าอารมณ์ เช่น ฟรี , เผยเคล็ดลับ , หายาก , ที่สุด , ด่วน ฯลฯ รวมถึงการใส่ตัวเลขลงไปก็ช่วยเพิ่มความน่าคลิกได้ดีค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
คุณจะเขียนเกี่ยวกับสูตรอาหารไทย คุณอาจจะตั้งชื่อว่า
- 5 สูตรอาหารไทย ทำได้ใน 10 นาที
- 7 สูตรอาหารไทยสำหรับเด็กวัยเรียน
- 3 สูตรอาหารไทยยอดฮิต ทำขายเมื่อไรก็รวย เป็นต้น
เน้นเขียนหัวข้อให้กระชับและความยาวไม่ควรเกิน 53 ตัวอักษร
ปกติแล้วเวลา Google แสดงหัวข้อของบทความในหน้าผลการค้นหา Google จะไม่แสดงหัวข้อทั้งหมด แต่จะแสดงตัวอักษรเพียงแค่ ประมาณ 15 คำหรือประมาณ 53 ตัวอักษรเท่านั้น หากเราเขียนหัวข้อยาวกว่านั้น Google ก็จะไม่แสดงผลค่ะ
เพิ่มประสิทธิภาพให้บทนำ
บทนำ คือคำอธิบายย่อ ๆ ที่เขียนก่อนจะเข้าเนื้อเรื่องในบทความ บทนำมีส่วนสำคัญต่อ SEO และสามารถดึงดูดใจผู้อ่านได้เป็นอย่างดี การเขียนบทนำที่มีประสิทธิภาพ มักจะมีรูปแบบดังนี้
การถามปัญหา
การถามปัญหาหรือข้อกังวลของผู้เข้าชม ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในบทความและจะช่วยเพิ่มอัตราความสนใจของผู้เข้าชมได้ โดยการถามปัญหา เราต้องถามให้ตรงจุด กระชับและได้ความหมาย ที่สำคัญต้องถามให้ตรงกับเนื้อหาที่เราเขียนในบทความ ยกตัวอย่างเช่น
เสนอวิธีแก้ปัญหา
หลังจากที่เราถามคำถามเสร็จ เราต้องเสนอวิธีแก้ปัญหาที่เราถามด้วย เพื่อให้ผู้เข้าชมที่กำลังกังวลกับปัญหามั่นใจว่าบทความที่เขากำลังจะอ่าน จะสามารถตอบโจทย์หรือแก้ไขปัญหาของเขาได้ ตัวอย่างเช่น
บอกหรืออธิบายถึงสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาที่ได้ผล
ในส่วนนี้จะเป็นการใส่ประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และ จะช่วยบ่งบอกผู้เข้าชมให้รับรู้ว่า เพราะเหตุใดเขาต้องเชื่อเนื้อหาที่เรากำลังจะนำเสนอไป เช่น
อธิบายเนื้อหาของบทความ
หลังจากที่บอกประสบการณ์ตรงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของบทความไปแล้ว จากนั้นก็ควรใส่คำอธิบายเนื้อหาสำคัญ ๆ ของบทความคร่าว ๆ ลงไปด้วย เช่น
บอกผู้เข้าชมว่าเมื่ออ่านจบจะได้ผลลัพธ์อะไร
สิ่งสุดท้ายที่เราต้องเขียนลงไปในบทนำ คือ การบอกผู้เข้าชมว่าเมื่ออ่านบทความจนจบเขาจะได้ผลลัพธ์อะไรบ้าง เพื่อเป็นการยืนยันว่าหลังจากที่ผู้เข้าชมอ่านบทความของเราจนจบเขาจะได้รับอะไรจากการอ่านครั้งนี้บ้าง ยกตัวอย่างเช่น หลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จนจบ คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องการเลือกของขวัญแฟนอีกต่อไป แถมยังสามารถเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้กับการเลือกของขวัญในโอกาสอื่น ๆ ต่อไปได้อีกด้วย เป็นต้น
เพิ่มประสิทธิภาพของ headline
การเขียน Headline ที่ดีจะช่วยดึงดูดให้ผู้เข้าชมอ่านและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อเว็บไซต์เรา โดยเราสามารถสร้าง Headline ปกติให้ถูกหลัก SEO โดย
ดังตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า การวางโครงสร้างของ Headline มีเคล็ดลับง่ายๆ คือ
- วาง Headline ตามลำดับที่ถูกต้อง ไม่มีการข้ามลำดับหรือวางสลับกันอย่างเด็ดขาด
- Headline ในแต่ละส่วน ควรจะมี Mood&Tone เดียวกัน
- เขียนให้ผู้เข้าชมแค่อ่าน Haedline ก็สามารถเข้าใจถึงเนื้อเรื่องได้
เพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อหา
การเขียนเนื้อหาที่ถูกหลัก SEO ก็จะช่วยเพิ่มคนเข้าชมเว็บไซต์ให้เยอะขึ้นได้ แถม Search Engine ก็ยังให้ความสำคัญกับเนื้อหาทั้งหมดในบทความไม่เท่ากัน เราจึงต้องจัดทำเนื้อหาและวางโครงสร้างให้เหมาะสม โดยเทคนิคคือ
- สื่อสารถึงข้อสรุปและภาพรวมก่อน : เพื่อทำให้ผู้อ่านรับรู้ได้ว่า เมื่อเขาอ่านบทความจบเขาจะได้อะไรบ้าง
- ตัวแบ่งบรรทัดและบทคัดย่ออย่างเหมาะสม :ช่วยจัดระเบียบของบทความให้น่าอ่าน และช่วยให้ Search Engine ลำดับความสำคัญได้ถูกต้อง
- อย่าลืมใช้ลิสต์แสดงหัวข้อย่อย : นอกจาก Keyword แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ Google Robot จะมองหาก่อนนั่นคือ List ต่างๆ เพราะฉะนั้นเวลาเขียนบทความก็อย่าลืมใช้ List ให้เป็นประโยชน์ด้วยนะคะ
- เขียนคำที่ต้องการสื่อสารอย่างชัดเจน : เช่น ควร , ห้าม , แนะนำ , เริ่มจาก ฯลฯ พยายามหลีกเลี่ยงคำที่กำกวมหรือไม่มีความหมายชัดเจนเพราะนอกจากจะไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าชมแล้ว ยังทำให้Google Robot ทำงานยากขึ้นด้วย
- ใส่หน้าที่เชื่อมโยงให้เห็นอย่างชัดเจน : หน้าที่เชื่อมโยงหรือ ลิงก์ภายใน จะเป็นตัวบ่งบอกว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพมากแค่ไหน หากผู้เข้าชมเกิดปัญหาและสามารถค้นหาคำตอบที่ชัดเจนได้ในลิงก์ภายในของเว็บไซต์เรา นอกจากจะทำให้ผู้เข้าชมอยู่ในเว็บไซต์ของเรานานขึ้น ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์เราด้วยค่ะ
สรุป :เมื่อคุณอยากประสบความสำเร็จทางด้าน SEO ก็ควรทำ Content ที่มีคุณภาพ
การเขียนบทความออนไลน์ ต้องเข้าใจถึงลักษณะและปัญหาของผู้เข้าชม จากนั้นปรับแต่งการเขียนให้ถูกหลัก SEO จะสามารถช่วยเพิ่มจำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี และหากคุณอยากให้บทความในเว็บไซต์ติด SEO แนะนำให้อ่านโพสต์ด้านล่างนี้